ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันที่ 7 มกราคม 2568 มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์หลายประการ ดังนี้
ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
- นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ต่อเนื่องถึงปี 2568 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำลดลง ทำให้นักลงทุนมีแนวโน้มถือครองทองคำมากขึ้น
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ราคาทองคำในสกุลเงินอื่นถูกลง ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจดันราคาทองคำให้สูงขึ้น
- อัตราเงินเฟ้อ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในหลายประเทศจะเริ่มลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้ ซึ่งทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่นิยมถือครองในสถานการณ์เช่นนี้
ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
- ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง สถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงดำเนินอยู่ ทำให้นักลงทุนต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน
- สงครามรัสเซีย-ยูเครน ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
- การสะสมทองคำของธนาคารกลาง ประเทศต่าง ๆ เช่น จีนและรัสเซีย มีการสะสมทองคำในทุนสำรองเพิ่มขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการกระทำนี้ส่งผลให้ความต้องการทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้น
จากปัจจัยข้างต้น ราคาทองคำในวันที่ 7 มกราคม 2568 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจและการเมืองโลกยังคงมีความไม่แน่นอน
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
1. แนวโน้มราคา (Trend)
- กราฟแสดงการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเวลาสั้น (30 นาที)
- พบว่าก่อนหน้านี้มีแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน (Downtrend) และเริ่มมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงท้ายของกราฟ
2. เส้น MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- เส้น MACD (เส้นสีน้ำเงิน) อยู่ใกล้จุดศูนย์ (0.203) และเริ่มตัดขึ้นเหนือเส้น Signal (เส้นสีส้ม) ซึ่งเป็นสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มการฟื้นตัวในระยะสั้น
- อย่างไรก็ตาม ค่า MACD ยังคงอยู่ในโซนลบ (-3.025 และ -3.228) บ่งบอกถึงแรงกดดันจากแนวโน้มขาลงก่อนหน้านี้ยังคงอยู่
3. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ช่วงที่ราคาปรับตัวลง มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แสดงถึงแรงขายที่สูง
- ช่วงที่ราคาฟื้นตัวในท้ายกราฟ ปริมาณการซื้อขายลดลง ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวนี้ยังไม่มีแรงสนับสนุนที่แข็งแกร่ง
4. แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance)
- แนวรับสำคัญ บริเวณ $2,628 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในช่วงกราฟนี้
- แนวต้านสำคัญ บริเวณ $2,640 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดก่อนที่ราคาจะปรับตัวลดลง
5. สัญญาณการกลับตัว (Reversal Signal)
- การที่ MACD เริ่มตัดขึ้นเหนือ Signal อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวขึ้น (Bullish Reversal) อย่างไรก็ตามยังต้องรอดูว่าราคาจะสามารถยืนเหนือแนวต้านที่สำคัญ ($2,640) ได้หรือไม่
6. การประเมินแนวโน้มราคาในระยะสั้น
- หากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ $2,640 ได้ พร้อมปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น อาจเห็นการปรับตัวขึ้นต่อไป
- หากราคาลดลงต่ำกว่าแนวรับที่ $2,628 อาจมีการปรับตัวลงต่อ โดยเป้าหมายถัดไปอยู่ในช่วง $2,620
ข้อควรระวัง
- เนื่องจากกราฟนี้เป็นกรอบเวลาสั้น (30 นาที) สัญญาณที่ได้อาจไม่แข็งแรงเพียงพอสำหรับการวิเคราะห์ในระยะยาว
- แนะนำให้ติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับทองคำและปัจจัยเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ