แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้มีแนวโน้มถูกกำหนดโดยปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญในช่วงนี้ ได้แก่

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
  1. การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
    ค่าเงินดอลลาร์มีบทบาทสำคัญต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำซื้อขายในรูปดอลลาร์ หากดอลลาร์อ่อนค่า จะช่วยดันราคาทองให้สูงขึ้น ล่าสุดดัชนีดอลลาร์แสดงแนวโน้มอ่อนตัวจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในระยะสั้น
  2. เงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
    อัตราเงินเฟ้อในประเทศสำคัญยังคงสูง ทำให้นักลงทุนหันมาถือทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม หากธนาคารกลางยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติม อาจเป็นแรงกดดันต่อราคาทองคำ เพราะดอกเบี้ยสูงทำให้การถือสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน เช่น ทองคำ มีความน่าสนใจลดลง
  3. ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลก
    สถานการณ์ความไม่แน่นอน เช่น ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ยังคงเป็นตัวเร่งราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทองคำถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยในช่วงวิกฤต
  4. ความต้องการทองคำจากประเทศเศรษฐกิจใหญ่
    ประเทศจีนและอินเดียเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ และข้อมูลล่าสุดระบุว่าความต้องการในช่วงปลายปีเพิ่มสูงขึ้นในสองประเทศนี้ ซึ่งอาจช่วยสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้นของราคาทอง
แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567

ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นในวันพรุ่งนี้ หากค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่าต่อไปและตลาดยังคงรับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาดูผลประกอบการจากภาคธุรกิจใหญ่และความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางอย่างใกล้ชิด

นวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567
  1. แนวโน้มล่าสุด
    ราคาทองคำล่าสุดปรับฐานลงก่อนจะมีสัญญาณฟื้นตัวกลับขึ้นมาเล็กน้อยในช่วงท้ายของกราฟ โดย MACD (Moving Average Convergence Divergence) เริ่มแสดงสัญญาณตัดเส้นขึ้น (Bullish Crossover) ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น
  2. แนวรับและแนวต้าน
    • แนวรับสำคัญ บริเวณใกล้ $2,610-2,620 ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีการดีดตัวขึ้นในอดีต
    • แนวต้านสำคัญ บริเวณ $2,650-2,670 ซึ่งมีแรงขายจำนวนมากในรอบที่ผ่านมา
  3. Volume
    ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพิ่มขึ้นในช่วงฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด แสดงถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นและมีโอกาสผลักดันราคาในทิศทางขาขึ้น
  4. MACD และ Histogram
    Histogram มีการเพิ่มระดับเข้าสู่แดนบวก และเส้น MACD กำลังเคลื่อนที่ใกล้เส้นศูนย์ ซึ่งหากทะลุขึ้น จะยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้นชัดเจนขึ้น
  5. เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
    ราคาปัจจุบันเคลื่อนที่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น (20-period EMA) แต่ยังคงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง (50-period EMA) ซึ่งบ่งบอกว่าการกลับตัวเป็นขาขึ้นอาจต้องรอการยืนยันเพิ่มเติม

แนวโน้มสำหรับวันพรุ่งนี้ 27 พฤศจิกายน 2024

  • ปัจจัยหนุนการขึ้นราคา หากยังมีแรงซื้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและราคาสามารถทะลุแนวต้าน $2,650 ได้สำเร็จ ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบบริเวณ $2,670-$2,680
  • ปัจจัยกดดันราคา หากราคาหลุดแนวรับ $2,610 มีความเสี่ยงที่จะปรับฐานลงสู่บริเวณ $2,590-$2,600 ซึ่งเป็นแนวรับถัดไป