ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้มีแนวโน้มถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยพื้นฐานสำคัญหลายประการ

1. สถานะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
ราคาทองคำมักเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หากค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าจากแรงกดดันด้านนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอาจมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น
2. อัตราดอกเบี้ย
Fed มีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งช่วยเสริมความน่าสนใจของทองคำ เนื่องจากการลงทุนในทองคำไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ย นักลงทุนจึงมองว่าทองคำเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยในช่วงดอกเบี้ยต่ำ
3. เงินเฟ้อและเศรษฐกิจโลก
ระดับเงินเฟ้อที่ยังสูงในหลายประเทศยังผลักดันให้ทองคำเป็นตัวเลือกสำหรับป้องกันมูลค่าทรัพย์สิน ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในจีนและยุโรปก็สร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินหลัก ซึ่งอาจส่งผลบวกต่อราคาทองคำในตลาดโลก
4. สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์
ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความไม่สงบในตะวันออกกลาง ยังคงสร้างความกังวลต่อตลาดโลก ทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้มีโอกาสคงตัวหรือปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามการประกาศสำคัญ เช่น ท่าทีของ Fed และสถานการณ์ระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มราคาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

- แนวโน้ม (Trend)
- ราคาทองคำในช่วงวันที่ 13-14 ธันวาคม 2024 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มขาลงที่ชัดเจน
- เส้น MACD (Moving Average Convergence Divergence) มีสัญญาณเชิงลบ โดยเส้น MACD และ Signal Line อยู่ต่ำกว่าศูนย์ ซึ่งยืนยันถึงโมเมนตัมเชิงลบของตลาด
- ระดับแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance)
- ระดับแนวรับที่สำคัญ: บริเวณ 2,640 USD
- แนวต้านที่อาจเป็นเป้าหมายของการดีดตัวกลับ: 2,660 – 2,680 USD
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ปริมาณการซื้อขายมีแนวโน้มลดลงในช่วงที่ราคาลดลง ซึ่งอาจแปลได้ว่าความแข็งแกร่งของขาลงเริ่มลดลง
แนวโน้มสำหรับวันพรุ่งนี้
- มีโอกาสเกิดการรีบาวด์ในระยะสั้น หากราคาสามารถทรงตัวเหนือแนวรับที่ 2,640 USD ได้ แต่แนวโน้มระยะกลางยังคงเป็นขาลง
- นักลงทุนควรติดตามการประชุมธนาคารกลาง รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ดัชนี CPI หรือดัชนีผู้บริโภคของสหรัฐ
