ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (22-28 มีนาคม 2568) ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์หลายประการ ดังนี้:
1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
- นโยบายการค้าของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ดำเนินนโยบายการค้าที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากประเทศคู่ค้า เช่น แคนาดา เม็กซิโก และจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดมาตรการตอบโต้จากประเทศเหล่านี้ ความตึงเครียดทางการค้านี้ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
- การคาดการณ์ราคาทองคำ ธนาคาร Citi ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาทองคำในระยะสั้น (0-3 เดือน) เป็น 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเดิมที่ 2,800 ดอลลาร์สหรัฐ และปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาเฉลี่ยสำหรับปี 2568 จาก 2,800 ดอลลาร์สหรัฐ เป็น 2,900 ดอลลาร์สหรัฐ
2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก นโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เข้มงวดขึ้น ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
จากปัจจัยดังกล่าว ราคาทองคำในวันที่ 29 มีนาคม 2568 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
1. แนวโน้มราคา (Trend)
- จากกราฟ ราคาทองคำอยู่ใน ขาขึ้น (Uptrend) อย่างชัดเจน เนื่องจากมีการทำจุดสูงสุดใหม่ (Higher High) และจุดต่ำสุดที่ยกตัวสูงขึ้น (Higher Low)
- ราคายังคงเคลื่อนที่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และมีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง
2. อินดิเคเตอร์ MACD
- MACD Line (เส้นสีฟ้า) > Signal Line (เส้นสีส้ม) → เป็นสัญญาณ Bullish แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ยังแข็งแกร่ง
- MACD Histogram อยู่ในโซนบวก (สีเขียว) และมีลักษณะขยายตัว → แสดงถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่งของขาขึ้น
3. แนวต้านและแนวรับที่สำคัญ
- แนวต้านถัดไป ประมาณ 3,100 – 3,120 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (เป็นจุดสูงสุดที่อาจทดสอบ)
- แนวรับสำคัญ อยู่ที่ 3,000 – 2,960 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (เป็นจุดที่ราคามีโอกาสปรับฐาน)
4. ความน่าจะเป็นของราคา
- มีโอกาสที่ราคาจะ ปรับตัวขึ้นต่อ ไปทดสอบแนวต้าน 3,100 – 3,120
- อย่างไรก็ตาม หากเกิดแรงขายทำกำไร ราคามีโอกาส พักตัว ลงมาที่แนวรับ 3,000 – 2,960 ก่อนกลับตัวขึ้น
สรุปแนวทางการเทรด
กลยุทธ์ขาขึ้น หากราคาทะลุแนวต้าน 3,100 อาจพิจารณาเข้าซื้อเพื่อไปต่อที่ 3,120+
กลยุทธ์เฝ้าระวัง หากราคาปรับฐาน อาจรอเข้าซื้อบริเวณแนวรับที่ 3,000 – 2,960
สัญญาณกลับตัว หากราคาหลุดต่ำกว่า 2,960 อาจมีการกลับตัวเป็นขาลง
