แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

การวิเคราะห์ราคาทองคำสำหรับวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 โดยพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดังนี้

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568

1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

  • นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีการคาดการณ์ว่า Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางถึงปลายปี 2568 เพื่อลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การลดดอกเบี้ยนี้อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
  • การซื้อทองคำของธนาคารกลาง ในปี 2567 ธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะจีน ได้ซื้อทองคำมากกว่า 1,000 ตันเป็นปีที่สามติดต่อกัน การสะสมทองคำอย่างต่อเนื่องนี้สะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นและเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ

2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์

  • ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์อื่น ๆ ความไม่แน่นอนในด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาคยังคงเป็นแรงสนับสนุนให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนเลือกถือครอง
แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงถึงแนวโน้มที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิดเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568

1. แนวโน้มของราคา

  • จากกราฟ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candles) ที่แข็งแกร่ง
  • ราคาล่าสุดอยู่บริเวณ 2,901.705 ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า
  • แนวโน้มยังคงเป็นขาขึ้น เนื่องจากมี Higher High และ Higher Low เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

2. อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค

MACD (Moving Average Convergence Divergence)
  • เส้น MACD (เส้นสีฟ้า) อยู่เหนือเส้นสัญญาณ (สีส้ม) แสดงถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
  • ค่า Histogram เป็นบวก และยังคงขยายตัว แสดงถึงแรงซื้อที่ยังมีอยู่
  • อย่างไรก็ตาม MACD เริ่มเข้าใกล้โซน Overbought ซึ่งอาจมีการพักฐานในระยะสั้น
ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
  • ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพิ่มขึ้นชัดเจนในช่วงขาขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อแนวโน้มขาขึ้น
  • การที่ราคาปรับตัวขึ้นพร้อมกับ Volume ที่เพิ่มขึ้น บ่งบอกถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง

3. แนวรับและแนวต้านสำคัญ

  • แนวรับ (Support)
    • ระดับ 2,885 – 2,890 (ฐานแนวรับล่าสุด)
    • ระดับ 2,860 – 2,865 (แนวรับถัดไปหากราคาปรับตัวลง)
  • แนวต้าน (Resistance)
    • ระดับ 2,905 – 2,910 (แนวต้านระยะสั้นที่ราคาต้องทะลุเพื่อไปต่อ)
    • หากผ่านระดับนี้ได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบระดับ 2,920 – 2,930

4. สัญญาณเตือนความเสี่ยง

  • ราคาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็ว อาจมี แรงขายทำกำไร (Profit-taking) เกิดขึ้นในช่วงสั้น ๆ
  • หาก MACD เริ่มชะลอตัวและ Histogram ลดลง อาจมีการพักฐานก่อนขึ้นต่อ
  • นักลงทุนระยะสั้นอาจต้องรอให้ราคาปรับฐานก่อนเข้าซื้อเพิ่ม

สรุปแนวโน้มจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

  • แนวโน้มขาขึ้นแข็งแกร่ง แต่ควรระวังแรงขายทำกำไร
  • หากราคายืนเหนือ 2,900 ได้ อาจมีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 2,910 – 2,920
  • ควรจับตาการพักฐานระยะสั้น โดยแนวรับอยู่ที่ 2,885 – 2,890