ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญหลายด้าน ซึ่งสามารถช่วยให้คุณวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ ได้แก่

- อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
การปรับขึ้นหรือลงของอัตราดอกเบี้ยจาก FED มีผลต่อความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจสหรัฐฯและความเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ เมื่อดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น เงินดอลลาร์จะแข็งค่า ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำลดลง และในทางกลับกัน หากดอกเบี้ยลดลง ราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น - ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (Dollar Index)
ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงส่งผลให้ทองคำมีราคาสูงขึ้น เพราะนักลงทุนจากประเทศอื่นสามารถซื้อทองคำได้ในราคาถูกลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ - ปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก
เหตุการณ์ความไม่แน่นอน เช่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศ หรือการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจโลก (เช่น การเติบโตของจีนที่ชะลอตัว) มักกระตุ้นให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย - ความต้องการของตลาดทองคำ
ความต้องการจากประเทศที่มีการบริโภคทองคำสูง เช่น อินเดียและจีน มีผลต่อราคาทองคำโดยตรง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายทางการค้าในภูมิภาคเหล่านี้

หากคุณต้องการวิเคราะห์ราคาทองคำเพิ่มเติม ควรติดตามข้อมูลรายวันจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ รวมถึงกราฟราคาและการวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญที่อัปเดตข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เช่นจาก TFEX หรือแพลตฟอร์มวิเคราะห์ทองคำ
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- เส้น MACD Line (-0.700) และ เส้น Signal Line (-1.282) แสดงค่าสัญญาณที่อยู่ในพื้นที่ ต่ำกว่าเส้น 0 บ่งบอกว่าตลาดยังคงอยู่ในภาวะขาลง (Bearish) โดยแรงขายยังคงมากกว่าแรงซื้อ
- อย่างไรก็ตาม ค่า Histogram เริ่มแสดงสัญญาณลดลงของแรงขาย ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าการขายเริ่มชะลอตัว และมีโอกาสเกิดการฟื้นตัวเล็กน้อย (Rebound)
- Volume (ปริมาณการซื้อขาย)
- ปริมาณการซื้อขายดูเหมือนจะลดลงในช่วงปลายกราฟ แสดงถึงความไม่แน่นอนของนักลงทุน หากไม่มีแรงซื้อหรือขายที่มากในวันพรุ่งนี้ ราคามีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบ (Sideways)
- รูปแบบแท่งเทียน (Candlestick Patterns)
- ช่วงท้ายกราฟ แท่งเทียนแสดงรูปแบบที่ไม่ชัดเจน (Indecision Candle) ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน อาจรอดูปัจจัยใหม่ เช่น ข่าวเศรษฐกิจหรือดัชนีสำคัญ
- แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance)
- แนวรับสำคัญ: $2,560 หากราคายังยืนอยู่เหนือระดับนี้ มีโอกาสพักฐานก่อนการฟื้นตัว
- แนวต้านสำคัญ: $2,580 หากราคาเบรกผ่านแนวต้านนี้ไปได้ จะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น
แนวโน้มวันพรุ่งนี้
- มีโอกาสที่ราคาทองจะเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ($2,560–$2,580) หากไม่มีปัจจัยใหม่มากระทบ
- หาก MACD แสดงสัญญาณ Divergence เชิงบวกชัดเจนขึ้น อาจมีการฟื้นตัวสั้นๆ
- นักลงทุนควรจับตาข่าวสารสำคัญ เช่น การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจากสหรัฐหรือปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจผลักดันให้ราคาทองเคลื่อนตัวออกจากกรอบปัจจุบัน
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน เน้นการตั้งจุดซื้อ-ขายที่แนวรับและแนวต้าน และติดตามข่าวสารตลาดแบบเรียลไทม์เพื่อประกอบการตัดสินใจ