แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-24 มีนาคม 2568) ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำมีดังนี้

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2568

1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

  • อัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ​
  • ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น​

2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์

  • ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างประเทศสำคัญในภูมิภาค ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง​
แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2568

จากปัจจัยดังกล่าว ราคาทองคำในวันที่ 25 มีนาคม 2568 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 25 มีนาคม 2568

1. แนวโน้มราคา (Trend)

  • จากกราฟในช่วงเวลาล่าสุด ราคาเริ่มมีการฟื้นตัวจากการร่วงลงอย่างรุนแรง (Long Red Candle) และมีการปรับฐานขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
  • การเคลื่อนไหวของราคาเริ่มสร้าง Higher Low ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวขึ้น (Reversal)

2. อินดิเคเตอร์สำคัญ

  • MACD (Moving Average Convergence Divergence)
    • เส้น MACD (สีน้ำเงิน) กำลังตัดเส้น Signal (สีส้ม) ขึ้นมา ซึ่งบ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้น (Bullish Momentum)
    • ฮิสโตแกรมของ MACD เปลี่ยนเป็นสีเขียวและเริ่มขยายตัว แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามา
  • Volume
    • ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาดีดตัวกลับ แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามาสนับสนุนการฟื้นตัว
    • อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายยังคงไม่สูงมากพอที่จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

3. แนวรับและแนวต้าน

  • แนวรับสำคัญ อยู่บริเวณ $3,020 – $3,015 ซึ่งเป็นจุดที่ราคาฟื้นตัวขึ้นมา
  • แนวต้านสำคัญ อยู่บริเวณ $3,032 – $3,035 ซึ่งเป็นระดับราคาที่เคยเป็นแนวต้านก่อนหน้านี้

4. สัญญาณซื้อ/ขาย

  • ขณะนี้กราฟเริ่มมีโมเมนตัมขาขึ้น หากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ $3,032 – $3,035 ได้ อาจมีโอกาสขึ้นต่อไปยังระดับถัดไปที่ $3,040 – $3,045
  • อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับที่ $3,020 ควรเฝ้าระวังการปรับฐานลงต่อ

สรุปแนวโน้ม

แนวโน้มระยะสั้น เริ่มเป็นขาขึ้นแบบระมัดระวัง (Cautiously Bullish)
กลยุทธ์การเทรด

  • รอซื้อหากราคาทะลุแนวต้านที่ $3,035 และยืนเหนือระดับนี้ได้
  • ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ไว้ที่ $3,015 หากราคาปรับตัวลง