ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (21-27 มีนาคม 2568) ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์หลายประการ ดังนี้
1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
- นโยบายการค้าของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกเบาในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน 2568 นโยบายนี้สร้างความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าและอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
- อัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำไม่ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย
2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
- ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
จากปัจจัยดังกล่าว ราคาทองคำในวันที่ 28 มีนาคม 2568 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ควรติดตามการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ และนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
- แนวโน้มราคา (Trend Analysis)
- กราฟแสดงให้เห็นว่าราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยล่าสุดราคาทะลุแนวต้านขึ้นไป
- การเพิ่มขึ้นของแท่งเทียนสีเขียวติดต่อกันสะท้อนถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพิ่มขึ้นตามราคาที่พุ่งขึ้น บ่งชี้ว่ามีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุน
- Volume ที่เพิ่มขึ้นในช่วงท้ายของกราฟแสดงถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- เส้น MACD (เส้นสีน้ำเงิน) อยู่เหนือเส้น Signal (เส้นสีส้ม) และมีค่าบวกชัดเจน สะท้อนถึงโมเมนตัมขาขึ้น
- Histogram ของ MACD อยู่ในแดนบวกและมีขนาดใหญ่ขึ้น บ่งชี้ว่าความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้นยังดำเนินต่อไป
- แนวรับและแนวต้าน (Support & Resistance)
- แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 3,056 – 3,060 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดล่าสุด หากราคาทะลุไปได้ อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
- แนวรับอยู่ที่ 3,040 – 3,030 หากราคาย่อตัวลงมา อาจเป็นจุดที่นักลงทุนเข้าซื้อสะสม
ราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากแรงซื้อที่หนาแน่น ประกอบกับ MACD ที่แสดงโมเมนตัมขาขึ้นชัดเจน อย่างไรก็ตาม ควรจับตาแนวต้านสำคัญ หากทะลุขึ้นไปได้ ราคามีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ ในทางกลับกัน หากมีแรงขายทำกำไร ราคาก็อาจย่อลงมาทดสอบแนวรับที่ 3,040 – 3,030 ก่อนปรับตัวขึ้นอีกครั้ง
