ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-24 มีนาคม 2568) ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำมีดังนี้

1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
- อัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น
2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
- ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างประเทศสำคัญในภูมิภาค ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง

จากปัจจัยดังกล่าว ราคาทองคำในวันที่ 25 มีนาคม 2568 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กระตุ้นให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

1. แนวโน้มราคา (Trend)
- จากกราฟในช่วงเวลาล่าสุด ราคาเริ่มมีการฟื้นตัวจากการร่วงลงอย่างรุนแรง (Long Red Candle) และมีการปรับฐานขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
- การเคลื่อนไหวของราคาเริ่มสร้าง Higher Low ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวขึ้น (Reversal)
2. อินดิเคเตอร์สำคัญ
- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- เส้น MACD (สีน้ำเงิน) กำลังตัดเส้น Signal (สีส้ม) ขึ้นมา ซึ่งบ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้น (Bullish Momentum)
- ฮิสโตแกรมของ MACD เปลี่ยนเป็นสีเขียวและเริ่มขยายตัว แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามา
- Volume
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume) เพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาดีดตัวกลับ แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามาสนับสนุนการฟื้นตัว
- อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายยังคงไม่สูงมากพอที่จะบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
3. แนวรับและแนวต้าน
- แนวรับสำคัญ อยู่บริเวณ $3,020 – $3,015 ซึ่งเป็นจุดที่ราคาฟื้นตัวขึ้นมา
- แนวต้านสำคัญ อยู่บริเวณ $3,032 – $3,035 ซึ่งเป็นระดับราคาที่เคยเป็นแนวต้านก่อนหน้านี้
4. สัญญาณซื้อ/ขาย
- ขณะนี้กราฟเริ่มมีโมเมนตัมขาขึ้น หากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ $3,032 – $3,035 ได้ อาจมีโอกาสขึ้นต่อไปยังระดับถัดไปที่ $3,040 – $3,045
- อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับที่ $3,020 ควรเฝ้าระวังการปรับฐานลงต่อ
สรุปแนวโน้ม
แนวโน้มระยะสั้น เริ่มเป็นขาขึ้นแบบระมัดระวัง (Cautiously Bullish)
กลยุทธ์การเทรด
- รอซื้อหากราคาทะลุแนวต้านที่ $3,035 และยืนเหนือระดับนี้ได้
- ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ไว้ที่ $3,015 หากราคาปรับตัวลง