ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ดังนี้
1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
- แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย การคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลง ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลง
- ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดการเงิน
2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
- ความตึงเครียดระหว่างประเทศ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ เช่น สงครามการค้า หรือความขัดแย้งทางการเมือง ส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง

จากปัจจัยดังกล่าว ราคาทองคำในวันที่ 16 มีนาคม 2568 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

1. แนวโน้มราคา (Trend)
- จากกราฟ ราคาทองคำเคลื่อนที่ในลักษณะ ขาขึ้น อย่างชัดเจนในช่วงก่อนหน้า แต่เริ่มมีการ พักตัว และอ่อนแรงลง
- ปัจจุบันราคาทองคำอยู่ที่ 2,984.020 USD ซึ่งเป็นจุดที่เริ่มมีแรงขายกดดัน
2. ดัชนี MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- เส้น MACD (สีน้ำเงิน) อยู่ต่ำกว่าเส้น Signal (สีส้ม) แสดงถึงโมเมนตัมขาลงที่แข็งแกร่ง
- ฮิสโตแกรมเป็นสีแดงต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงขายที่ยังคงมีอยู่
- MACD อยู่ต่ำกว่าศูนย์ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวลงต่อ
3. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ปริมาณการซื้อขายในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นมีขนาดใหญ่ แต่ในช่วงที่ราคาลดลง ปริมาณการซื้อขายลดลงเช่นกัน
- แสดงถึงแรงซื้อที่อ่อนตัวลงหลังจากขึ้นไปทดสอบแนวต้าน
4. แนวรับและแนวต้านสำคัญ
- แนวรับ 2,970 – 2,960 USD (หากราคาหลุดแนวนี้ อาจมีแรงขายเพิ่มขึ้น)
- แนวต้าน 2,990 – 3,000 USD (หากราคากลับขึ้นไปทะลุแนวต้านได้ อาจเกิดแนวโน้มขาขึ้นใหม่)
สรุปแนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 16 มีนาคม 2568
- ในระยะสั้น ราคาทองคำมีแนวโน้มพักฐานและอาจปรับตัวลงต่อ
- หากราคาหลุด 2,970 USD มีโอกาสปรับฐานลึกขึ้น
- หากราคายืนเหนือ 2,990 – 3,000 USD ได้ อาจกลับไปเป็นขาขึ้นอีกครั้ง