แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 1 เมษายน 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (24-31 มีนาคม 2568) ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์หลายประการ ดังนี้

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 1 เมษายน 2568

1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

  • นโยบายภาษีของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศนโยบายภาษีใหม่ในวันที่ 2 เมษายน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศและสร้างความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า นักลงทุนจึงหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
  • การคาดการณ์ราคาทองคำ บริษัท YLG ได้ปรับเป้าหมายราคาทองคำใหม่อยู่ที่ 3,150 – 3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ สะท้อนถึงแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำในระยะสั้น

2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์

  • ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่น ๆ ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง รัสเซีย-ยูเครน และทะเลจีนใต้ ส่งผลให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 1 เมษายน 2568

จากปัจจัยดังกล่าว ราคาทองคำในวันที่ 1 เมษายน 2568 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่สงครามการค้า และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 1 เมษายน 2568

1. แนวโน้มราคา (Trend Analysis)

  • กราฟแสดงแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ โดยมีจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง
  • อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีสัญญาณของการพักตัวหรืออาจเกิดการปรับฐาน เนื่องจากแท่งเทียนล่าสุดเริ่มมีลักษณะไซด์เวย์และเริ่มมีแรงขายเข้ามากดดัน

2. อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค

  • MACD (Moving Average Convergence Divergence)
    • เส้น MACD (สีน้ำเงิน) กำลังโค้งลงต่ำกว่าค่า Signal Line (สีส้ม) ซึ่งเป็นสัญญาณของการอ่อนตัว
    • Histogram แสดงค่าเป็นลบ ซึ่งบ่งบอกว่าโมเมนตัมฝั่งขาขึ้นกำลังอ่อนแรงและมีโอกาสเกิดแรงขายเพิ่มขึ้น
  • Volume Analysis
    • ช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้น มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นสนับสนุนการขึ้นของราคา
    • แต่ล่าสุดปริมาณซื้อขายเริ่มลดลง อาจบ่งบอกถึงความลังเลของตลาด และมีโอกาสเกิดการพักฐาน

3. แนวรับ-แนวต้าน (Support & Resistance)

  • แนวต้าน อยู่ที่บริเวณ 3,120 – 3,130 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดล่าสุด
  • แนวรับ อยู่ที่บริเวณ 3,100 – 3,080 ซึ่งเป็นจุดที่ราคาเคยพักตัว

4. การคาดการณ์แนวโน้มถัดไป

  • หากราคาสามารถยืนเหนือระดับ 3,120 ได้ มีโอกาสไปทดสอบแนวต้านใหม่ที่ 3,140 – 3,150
  • หากราคาหลุดต่ำกว่า 3,100 อาจเกิดแรงขายเพิ่มขึ้นและปรับฐานสู่ 3,080 – 3,060
  • สัญญาณจาก MACD บ่งชี้ว่าอาจเกิดการพักตัวระยะสั้น ก่อนที่จะเลือกทิศทางใหม่

5. กลยุทธ์การเทรด

  • หากราคายังคงยืนเหนือ 3,100 และมีแรงซื้อกลับเข้ามา อาจหาจังหวะเข้าซื้อโดยตั้งเป้าทดสอบแนวต้าน 3,120 – 3,130
  • หากราคาหลุดแนวรับ 3,100 – 3,080 ควรระวังแรงขายและรอดูสัญญาณกลับตัวก่อนเข้าซื้อใหม่

ราคาทองยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่กำลังอยู่ในช่วงพักตัว ควรจับตาดูแนวรับสำคัญ หากยังรักษาไว้ได้ ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ แต่หากหลุดแนวรับอาจเกิดการปรับฐานลงมากกว่านี้