ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยสำคัญดังนี้
- กิจกรรมของธนาคารกลาง
ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเป็นผู้ซื้อทองคำสุทธิ ซึ่งช่วยสนับสนุนความต้องการในตลาด แม้ว่าปริมาณการซื้ออาจไม่สูงเท่าปีก่อน แต่ยังมีผลให้ราคาทองคำแข็งแกร่งในระยะสั้น โดยเฉพาะการซื้อเพื่อเพิ่มทุนสำรองในหลายประเทศ เช่น จีนและอินเดีย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะรักษาความต้องการทองคำอยู่ที่ระดับสูง - แนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐฯ
การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2024 เป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อราคาทองคำ ดอกเบี้ยที่ต่ำลงมีแนวโน้มลดต้นทุนของการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน ส่งผลให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้นในกลุ่มนักลงทุน - ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจโลกที่ยังอ่อนแอและความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นอาจเพิ่มแรงซื้อทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน - ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์เป็นอีกตัวแปรสำคัญ หากดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงตามการคาดการณ์ จะช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น เนื่องจากทองคำมีความสัมพันธ์ผกผันกับค่าเงินดอลลาร์
ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้น่าจะมีแนวโน้มขยับขึ้นหรือทรงตัวในระดับสูง จากปัจจัยหนุนอย่างอัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนคลาย กิจกรรมซื้อทองคำของธนาคารกลาง และความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม การติดตามข่าวสารอัปเดตและการเคลื่อนไหวของตลาดเงินอย่างใกล้ชิดยังคงมีความสำคัญในการวางกลยุทธ์การลงทุน
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
1. ระดับแนวรับและแนวต้าน
- ระดับราคาที่ใกล้เคียง 2,640 ดอลลาร์ (บริเวณที่ราคาแกว่งตัวอยู่ในภาพ) ทำหน้าที่เป็น แนวรับ ที่สำคัญ เนื่องจากมีปริมาณการซื้อขายสะสมในจุดนี้
- ส่วนแนวต้านถัดไปที่น่าจับตามองคือบริเวณ 2,648 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่ราคาทองคำพยายามขึ้นไปทดสอบหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา
2. MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- จากกราฟ MACD เส้นค่าเฉลี่ยสัญญาณ (สีส้ม) ตัดเส้น MACD (สีน้ำเงิน) ลงในโซนล่าง ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแนวโน้ม ขาลงในระยะสั้น
- Histogram ของ MACD มีลักษณะเป็นลบ (แถบสีแดง) ซึ่งแสดงถึงโมเมนตัมของการขายที่ยังคงมีอยู่
3. Volume การซื้อขาย
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในบางช่วงเพิ่มสูงขึ้น แต่ไม่มากพอที่จะดันราคาไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน ซึ่งสะท้อนถึงภาวะ Sideway (แกว่งตัวออกข้าง)
4. ภาพรวมแนวโน้ม
- จากกราฟช่วงนี้ ราคาทองคำยังคงอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 2,636-2,648 ดอลลาร์ และไม่มีสัญญาณชัดเจนในการเปลี่ยนแนวโน้ม ดังนั้น จึงควรจับตาดูการทะลุกรอบใดกรอบหนึ่ง
แนวทางสำหรับวันพรุ่งนี้
- หากราคา ทะลุแนวต้าน 2,648 ดอลลาร์ อาจมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบ 2,652-2,656 ดอลลาร์
- หากราคา หลุดแนวรับ 2,640 ดอลลาร์ อาจลดลงสู่ระดับ 2,636 ดอลลาร์ หรือกรอบล่างต่อไปที่ 2,628 ดอลลาร์
แนะนำติดตามข่าวเศรษฐกิจหรือปัจจัยพื้นฐาน เช่น อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และข้อมูลการจ้างงาน ซึ่งมีผลต่อราคาทองคำโดยตรง