ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันที่ 29 ธันวาคม 2567 มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ดังนี้
1. การปรับลดราคาทองคำในประเทศ สมาคมค้าทองคำประกาศปรับลดราคาทองคำลง 50 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่ 42,350 บาท และทองรูปพรรณขายออกที่ 42,850 บาท
2. การเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำ SPDR ซึ่งเป็นกองทุนที่ถือครองทองคำรายใหญ่ของโลก ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนในตลาดทองคำ
3. การคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำในปี 2568 นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นสูงสุดถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ในปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และกระแสการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ
ราคาทองคำในวันที่ 29 ธันวาคม 2567 อาจมีความผันผวน เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่แน่นอน นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและปัจจัยต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
1. แนวโน้ม (Trend) ของตลาด
- กราฟแสดงการปรับตัวของราคาทองคำในกรอบเวลา 30 นาที โดยในช่วงล่าสุดราคาแสดงการดีดกลับ (Rebound) จากจุดต่ำสุดก่อนหน้า ซึ่งอาจบ่งบอกถึงแรงซื้อที่เข้ามาในตลาด
- อย่างไรก็ตาม แนวโน้มโดยรวมในระยะสั้นยังคงอยู่ในลักษณะขาลง (Downtrend) เนื่องจากราคายังไม่สามารถทะลุแนวต้านที่สำคัญในกรอบแนวโน้มขาขึ้นได้
2. ดัชนี MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- เส้น MACD (สีฟ้า) กำลังพยายามตัดเส้น Signal Line (สีส้ม) ขึ้นด้านบน ซึ่งเป็นสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงโอกาสการกลับตัว (Reversal) ไปสู่ขาขึ้นในระยะสั้น
- Histogram ของ MACD เปลี่ยนจากโซนลบไปสู่โซนบวก ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามาในตลาด
3. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงการดีดกลับของราคา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจจากนักลงทุนในการเข้าซื้อที่ระดับราคานี้
- หากปริมาณการซื้อขายยังคงอยู่ในระดับสูง ราคามีโอกาสที่จะขยับขึ้นต่อเนื่อง
4. ระดับแนวรับและแนวต้าน
- แนวรับที่สำคัญ บริเวณ $2,610 (แนวรับล่าสุดที่ราคาดีดกลับขึ้นมา)
- แนวต้านที่สำคัญ บริเวณ $2,625-$2,630 (ระดับที่ราคาปรับตัวขึ้นไปก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านได้)
5. การคาดการณ์แนวโน้มในวันถัดไป (29 ธันวาคม 2567)
- หากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ $2,625-$2,630 ได้ และปริมาณการซื้อขายสนับสนุน ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่แนวต้านถัดไปที่ $2,640
- แต่หากราคาหลุดแนวรับที่ $2,610 อาจเห็นการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ $2,600
6. ปัจจัยเพิ่มเติมที่ต้องติดตาม
- ตัวเลขเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ เช่น GDP และการประกาศตัวเลขการจ้างงาน อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำผ่านการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์
- ภูมิรัฐศาสตร์ ความเสี่ยงในระดับโลก เช่น สถานการณ์ในตะวันออกกลาง หรือความตึงเครียดทางการค้า อาจส่งผลต่อความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ
ข้อเสนอแนะ
- นักลงทุนระยะสั้นควรรอการยืนยันแนวโน้ม โดยพิจารณาจากการทะลุแนวต้านหรือการหลุดแนวรับ
- นักลงทุนระยะยาวควรติดตามปัจจัยพื้นฐานเพิ่มเติม เช่น ความคืบหน้าของนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)