ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันที่ 28 ธันวาคม 2567 มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ดังนี้
1. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงดำเนินอยู่ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
2. การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น
3. การคาดการณ์นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นักลงทุนจับตาการประชุมของเฟดในปีหน้า ซึ่งอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าและสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น
ราคาทองคำในวันที่ 28 ธันวาคม 2567 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากวันที่ 27 ธันวาคม 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และการคาดการณ์นโยบายการเงินของเฟด อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและปัจจัยต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
1. การเคลื่อนไหวของราคา (Price Action)
- กราฟมีการสร้าง จุดสูงสุดต่ำลง (Lower Highs) และ จุดต่ำสุดต่ำลง (Lower Lows) ซึ่งเป็นสัญญาณของแนวโน้มขาลง (Downtrend) ในระยะสั้น
- ราคาได้ปรับตัวลงในช่วงท้ายของกราฟ และใกล้ระดับแนวรับสำคัญที่ $2,624
2. ตัวชี้วัด MACD
- เส้น MACD อยู่ต่ำกว่าเส้น Signal และบริเวณค่าต่ำกว่า 0 ซึ่งเป็นสัญญาณแรงขายที่ยังคงมีอิทธิพล
- Histogram ของ MACD แสดงการลดลงของแรงขาย แต่ยังไม่ได้ส่งสัญญาณการกลับตัวอย่างชัดเจน
3. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ปริมาณการซื้อขายมีการเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาเคลื่อนตัวลง แสดงถึงการเข้ามาของแรงขายในตลาด ซึ่งยืนยันแนวโน้มขาลง
แนวโน้มในวันถัดไป
- แนวต้าน (Resistance)
- ระดับที่น่าจับตา: $2,628 – $2,630 หากราคาทะลุขึ้นไปได้ อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ
- แนวรับ (Support)
- ระดับสำคัญ: $2,620 – $2,615 หากราคาหลุดแนวรับนี้ลง อาจมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง
คำแนะนำการลงทุน
- หากราคายังไม่สามารถทะลุแนวต้าน $2,628 ได้ นักลงทุนอาจพิจารณาถือสถานะขาย (Short Position) โดยตั้งเป้าหมายแนวรับที่ $2,615
- ในกรณีที่ราคาเริ่มแสดงการฟื้นตัวและทะลุแนวต้าน $2,630 ได้ แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อ (Long Position) พร้อมตั้งเป้าหมายที่ $2,635 – $2,640