ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ดังนี้

1. การเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR Gold Trust กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 โดยยังคงถือครองที่ระดับ 877.40 ตัน การที่กองทุนไม่ได้ซื้อหรือขายทองคำเพิ่มเติมอาจบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนของนักลงทุนต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น
2. ราคาทองคำในประเทศ สำหรับประเทศไทย ราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 โดยราคาทองคำแท่งขายออกอยู่ที่ 42,350 บาท และทองรูปพรรณขายออกอยู่ที่ 42,850 บาท การที่ราคาทองคำคงที่อาจสะท้อนถึงการรอคอยปัจจัยใหม่ ๆ ที่จะมีผลต่อราคาทองคำในอนาคต
3. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในตะวันออกกลาง เช่น ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิรัก ยังคงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสนใจ เนื่องจากความไม่แน่นอนในภูมิภาคนี้มักกระตุ้นความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
4. การคาดการณ์ราคาทองคำในอนาคต นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่าราคาทองคำอาจปรับตัวขึ้นในปี 2568 โดยอาจแตะระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว

ราคาทองคำในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ ๆ ที่จะผลักดันราคา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำในอนาคต
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

1. แนวโน้มราคา
- ราคาทองคำในช่วงล่าสุดแสดงการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีการสลับขึ้นและลงเป็นลักษณะไซด์เวย์ (Sideway) หลังจากที่มีการปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า
- แนวต้านระยะสั้นอาจอยู่ที่บริเวณ 2,620 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ในขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,610 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
2. การวิเคราะห์ MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- เส้น MACD (สีฟ้า) อยู่ใกล้กับเส้น Signal Line (สีส้ม) และค่าฮิสโตแกรมเริ่มมีการหดตัว ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมของการเคลื่อนไหวราคาเริ่มลดลง
- หากเส้น MACD ตัดลงใต้เส้น Signal Line อาจเป็นสัญญาณของแรงขายที่เพิ่มขึ้น
3. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ปริมาณการซื้อขายลดลงเมื่อเทียบกับช่วงที่มีการปรับตัวขึ้นแรงก่อนหน้า ซึ่งแสดงถึงความไม่แน่นอนของนักลงทุนในช่วงนี้
แนวโน้มในวันถัดไป
- หากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 2,620 ดอลลาร์ได้ อาจมีการปรับฐานลงมาที่แนวรับ 2,610 ดอลลาร์
- ในกรณีที่มีแรงซื้อเพิ่มขึ้น ราคามีโอกาสทะลุแนวต้านและปรับตัวขึ้นต่อ โดยเป้าหมายถัดไปอยู่ที่บริเวณ 2,630 ดอลลาร์
สำหรับนักลงทุนระยะสั้น ควรรอให้ราคายืนยันการ breakout ออกจากกรอบไซด์เวย์ก่อนตัดสินใจ
สำหรับนักลงทุนระยะยาว สามารถถือครองต่อไป เนื่องจากปัจจัยพื้นฐาน (เศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์) ยังสนับสนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย