ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
การคาดการณ์ราคาทองคำในวันที่ 24 ธันวาคม 2024 อิงจากปัจจัยพื้นฐานล่าสุด มีรายละเอียดดังนี้

ปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ
- ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก
- สถานการณ์เศรษฐกิจในสหรัฐฯ ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับราคาทองคำ เนื่องจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ เช่น GDP และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ล่าสุดสะท้อนความอ่อนแอของการเติบโตทางเศรษฐกิจ
- ตลาดการเงินยังคงจับตามองนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งอาจมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยหรือผ่อนคลายการปรับขึ้นในปี 2024
- ความต้องการทองคำในตลาดโลก
- ความต้องการทองคำในประเทศจีนและอินเดียมีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากช่วงเทศกาลและการปรับตัวของค่าเงินหยวนและรูปี
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงเล็กน้อยช่วยหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทองคำมีความสัมพันธ์แบบผกผันกับค่าเงินดอลลาร์
- การคาดการณ์เงินเฟ้อ
- เงินเฟ้อในหลายประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลงในบางภูมิภาค ความกังวลนี้ยังคงสนับสนุนการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
- สถานการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ
- ความตึงเครียดระหว่างประเทศ เช่น สงครามในตะวันออกกลาง หรือความขัดแย้งทางการค้าในบางภูมิภาค ยังคงเป็นปัจจัยกระตุ้นการลงทุนในทองคำ

ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความต้องการในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ควรจับตามองการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะประกาศในวันถัดไป
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

1. การวิเคราะห์แนวโน้มราคา
- กราฟแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของราคาหลังจากการปรับตัวลง โดยปัจจุบันราคาเคลื่อนไหวในช่วง sideways แต่มีแรงขายในช่วงท้ายของกราฟที่อาจบ่งชี้ถึงความอ่อนแรงของแรงซื้อในระยะสั้น
- แนวต้านสำคัญ ประมาณบริเวณ 2,628-2,632 ดอลลาร์ หากราคาสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ มีโอกาสที่จะไปทดสอบระดับที่สูงกว่า
- แนวรับสำคัญ บริเวณ 2,612-2,615 ดอลลาร์ หากราคาหลุดระดับนี้ลงมา อาจมีโอกาสปรับฐานลงต่อเนื่อง
2. การวิเคราะห์ MACD
- เส้น MACD (เส้นสีน้ำเงิน) อยู่เหนือเส้น Signal Line (เส้นสีส้ม) ในช่วงก่อนหน้า แต่ในปัจจุบันเริ่มแสดงสัญญาณ การตัดลง ซึ่งอาจบ่งบอกถึงโมเมนตัมของราคาที่ลดลง
- Histogram เปลี่ยนจากเขียวเป็นแดงในช่วงท้าย แสดงถึงแรงขายที่เริ่มมีอิทธิพลเพิ่มขึ้น
3. การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ช่วงที่ราคาปรับขึ้นก่อนหน้า มีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นในช่วงขาขึ้น
- แต่ในช่วงท้ายของกราฟ ปริมาณเริ่มลดลง ซึ่งอาจบ่งบอกถึงแรงซื้อที่ลดลง
แนวโน้มในอนาคต
- หากราคาสามารถยืนเหนือระดับแนวรับที่ 2,612 ดอลลาร์ได้ มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อทดสอบแนวต้านเดิมที่ 2,628-2,632 ดอลลาร์
- แต่หากหลุดแนวรับ อาจเห็นการปรับฐานไปที่ระดับแนวรับถัดไปที่ 2,600 ดอลลาร์
คำแนะนำสำหรับกลยุทธ์การลงทุน
- สำหรับผู้ซื้อ (Long) รอให้ราคายืนเหนือแนวต้าน 2,632 ดอลลาร์ก่อน เพื่อยืนยันแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง
- สำหรับผู้ขาย (Short) หากราคาหลุดแนวรับ 2,612 ดอลลาร์ อาจเปิดสถานะขายเพื่อเก็งกำไรจากแนวโน้มขาลงระยะสั้น

