แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากปัจจัยพื้นฐานสำคัญดังนี้

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567
  1. นโยบายการเงินและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
    การปรับตัวของราคาทองคำยังคงได้รับผลจากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมาอาจเป็นอีกปัจจัยที่ลดความน่าสนใจของการลงทุนทองคำในประเทศ
  2. ความต้องการสำรองทองคำของธนาคารกลาง
    ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการเพิ่มทุนสำรองทองคำโดยธนาคารกลางในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ เช่น ตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก อาจหนุนราคาทองคำระยะยาว แม้ความผันผวนระยะสั้นยังสูงอยู่
  3. สภาพเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์
    ความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจ เช่น การชะลอตัวของจีน และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ทั่วโลก อาจเพิ่มความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ผลกระทบอาจไม่รุนแรงเท่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดเริ่มปรับตัวกับปัจจัยเหล่านี้แล้ว
  4. แนวโน้มค่าเงินบาทและราคาทองในประเทศ
    ค่าเงินบาทที่มีความผันผวนสูงและสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก อาจส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงหากค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง

จากปัจจัยดังกล่าว ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้มีโอกาสปรับตัวทรงตัวหรือเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงระยะสั้น

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567

MACD บ่งชี้แนวโน้มขาขึ้น

  • เส้น MACD (สีฟ้า) อยู่เหนือเส้น Signal Line (สีส้ม) แสดงถึงสัญญาณการเติบโตของราคาในระยะสั้นถึงกลาง
  • ค่า MACD เป็นบวก (+5.150) ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่ยังคงมีอยู่ในตลาด
  • อย่างไรก็ตาม Histogram เริ่มแสดงการลดลงของความแรงในช่วงท้าย (แท่งสีเขียวหดสั้นลง) ซึ่งอาจสื่อถึงการชะลอตัวในแรงซื้อหรือการพักตัวในราคาช่วงถัดไป

แนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ

  • ราคาทองคำเคลื่อนที่ใกล้ระดับ 2,667-2,670 ดอลลาร์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นแนวต้านที่สำคัญในระยะสั้น
  • หากราคาสามารถทะลุแนวต้านนี้ได้ อาจวิ่งต่อไปถึงระดับ 2,680 ดอลลาร์
  • หากไม่สามารถทะลุได้ อาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 2,640-2,650 ดอลลาร์

ปริมาณการซื้อขาย (Volume)

  • ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงขาขึ้นของราคาทองคำ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน
  • แต่ช่วงท้ายของกราฟ Volume เริ่มลดลงเล็กน้อย แสดงว่าอาจมีการรอจังหวะหรือแรงซื้อชะลอลง

โมเมนตัมของราคา

  • กราฟแท่งเทียนในช่วงท้ายแสดงลักษณะของการขึ้นช้า (Small Body Candle) บ่งชี้ว่าแรงซื้อและแรงขายเริ่มสูสี ซึ่งอาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวแบบ Sideway หรือพักฐานในระยะสั้น

แนวโน้มในวันพรุ่งนี้ 22 พฤศจิกายน 2024

  • แนวโน้มเชิงบวก (Bullish Scenario) หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 2,670 ดอลลาร์และมีแรงซื้อใหม่เข้ามา อาจทะลุแนวต้าน 2,680 ดอลลาร์
  • แนวโน้มเชิงลบ (Bearish Scenario) หากไม่สามารถรักษาระดับนี้ได้และเกิดแรงขาย ราคามีแนวโน้มปรับตัวลงไปที่แนวรับ 2,640-2,650 ดอลลาร์

การตัดสินใจลงทุนควรพิจารณาร่วมกับปัจจัยพื้นฐาน เช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ, อัตราดอกเบี้ยของเฟด, และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ เพื่อความแม่นยำยิ่งขึ้น