แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2567

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

การวิเคราะห์ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้ วันที่ 22 ตุลาคม 2567 ต้องพิจารณาหลายปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการขึ้นลงของราคาทองดังนี้

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2567
  1. อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกาเป็นปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาทองคำ หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนจะมีแนวโน้มย้ายการลงทุนจากทองคำไปยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น พันธบัตรหรือเงินฝาก การที่ดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำจึงอาจทำให้ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
  2. ราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนมีความสัมพันธ์กับราคาทองคำ เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมักจะส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ซึ่งทองคำถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่นิยมใช้ป้องกันเงินเฟ้อ
  3. ค่าเงินดอลลาร์ การแข็งค่าหรืออ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐมีผลต่อราคาทองคำโดยตรง เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง ทองคำซึ่งซื้อขายในสกุลดอลลาร์จะมีราคาถูกลงสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่น ทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นและผลักดันราคาให้สูงขึ้น
  4. ดีมานด์และซัพพลาย ความต้องการทองคำจากจีนและอินเดียยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ หากมีการซื้อขายทองคำในระดับสูงในตลาดเอเชีย อาจส่งผลให้ราคาทองคำทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นตาม

ดังนั้น การวิเคราะห์ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้ยังมีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้น โดยปัจจัยสนับสนุนต่าง ๆ ยังคงหนุนให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ควรระวังการทำกำไรเมื่อราคาขึ้นใกล้แนวต้านสำคัญ

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2567
  1. แนวโน้มหลัก (Trend)
    • ราคากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเห็นการเกิด Higher Highs และ Higher Lows อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของตลาดในขาขึ้น
    • นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของราคาในช่วง 2-3 แท่งเทียนล่าสุดยังมีการพยายามทดสอบแนวต้านในโซน 2,734 USD โดยที่ราคาอยู่เหนือระดับนี้ได้เล็กน้อย
  2. MACD Indicator
    • MACD อยู่ในช่วงค่อนข้างอ่อนแอ แต่สังเกตว่าค่า Signal Line และ MACD Line อยู่ใกล้เคียงกัน โดยค่าสัญญาณ (MACD) อยู่เหนือ Signal Line ซึ่งบ่งบอกว่าแม้มีการชะลอตัวเล็กน้อย แต่ยังมีแรงซื้อที่สามารถดันราคาไปต่อได้
    • Histogram ของ MACD ที่ลดลงไปในทางลบแต่ยังไม่ลึกมาก ทำให้คาดการณ์ได้ว่าอาจมีการปรับฐานเล็กน้อย แต่มีโอกาสที่จะกลับไปเป็นขาขึ้นต่อไป
  3. Volume
    • ปริมาณการซื้อขายในช่วงขาขึ้นนี้เพิ่มขึ้นในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่ามีแรงสนับสนุนจากนักลงทุนจำนวนมากในการซื้อขาย
    • ในทางกลับกัน ถ้าราคาเกิดการลดลงพร้อมกับปริมาณ Volume ที่ลดลง แสดงว่าการปรับฐานอาจจะไม่รุนแรงและยังสามารถกลับตัวขึ้นต่อได้

สรุปแนวโน้ม

  • ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ แต่ต้องจับตาดูบริเวณแนวต้านที่ 2,734-2,740 USD หากสามารถทะลุได้ชัดเจนอาจเห็นการขึ้นต่อไปทดสอบระดับสูงกว่า
  • อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับฐานและหลุดแนวรับสำคัญ เช่น 2,710 USD อาจจะมีการพักตัวมากขึ้น

การดูแนวโน้มในช่วงนี้จึงควรระวังทั้งการพักตัวระยะสั้นและการเกิดสัญญาณกลับตัว