ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากปัจจัยพื้นฐานหลายประการ ดังนี้
- นโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย
ธนาคารกลางหลายแห่งยังคงลดอัตราดอกเบี้ยหรือชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีสัญญาณอ่อนตัว การลดดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสของการถือครองทองคำลดลง - ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
ความตึงเครียดทางการเมืองในภูมิภาคยุโรปและเอเชียยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มอ่อนค่า - การซื้อทองคำของธนาคารกลาง
ธนาคารกลางบางแห่งยังคงเพิ่มปริมาณการซื้อทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงของทุนสำรอง โดยเฉพาะประเทศในยุโรปและเอเชีย ซึ่งช่วยสนับสนุนราคาทองคำในระยะกลาง - ภาวะเศรษฐกิจจีน
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังคงไม่แน่นอน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดทองคำ เนื่องจากจีนเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ของโลก
ดังนั้น แนวโน้มราคาทองคำในวันพรุ่งนี้คาดว่าจะอยู่ในช่วงทรงตัวถึงปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยมีปัจจัยพื้นฐานขับเคลื่อนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ควรติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเพื่อปรับแผนการลงทุน
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
- MACD
- เส้น MACD (สีน้ำเงิน) อยู่เหนือเส้น Signal Line (สีส้ม) ในช่วงปลายกราฟ ซึ่งบ่งชี้ถึงโมเมนตัมที่ยังเป็นบวก และมีแนวโน้มขาขึ้นต่อไปในระยะสั้น
- Histogram ของ MACD แสดงค่าสีเขียวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งยืนยันว่าราคายังมีแรงซื้อหนุนในช่วงนี้
- แนวโน้มราคา
- ราคามีการปรับตัวขึ้นจากบริเวณแนวรับประมาณ 2,660 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันที่ผ่านมา และทะลุแนวต้านระยะสั้น 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์
- การเคลื่อนไหวที่อยู่เหนือ 2,710 ดอลลาร์/ออนซ์ บ่งชี้ว่าตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ แต่ต้องระวังแรงขายที่อาจเกิดขึ้นบริเวณ 2,730 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้น แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วงตลาดขาขึ้น
แนวโน้มต่อไป
- หากราคาสามารถยืนเหนือ 2,710 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ต่อเนื่อง อาจเห็นราคาขยับเข้าใกล้แนวต้านที่ 2,730 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันพรุ่งนี้
- ในกรณีที่มีแรงขาย ราคามีแนวโน้มที่จะย่อตัวกลับมาทดสอบแนวรับที่ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือบริเวณที่ต่ำกว่า
นักลงทุนควรจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ หรือข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับอัตราเงินเฟ้อ และการเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำ