ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันที่ 12 ธันวาคม 2024 คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยพื้นฐานหลายประการ ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้
- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
ราคาทองคำมักมีความสัมพันธ์เชิงลบกับค่าเงินดอลลาร์ หากดอลลาร์อ่อนค่าลง ทองคำจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม หากดอลลาร์แข็งค่าจากอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่สูงขึ้น อาจกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลง - เงินเฟ้อ (Inflation)
ระดับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ หรือเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและป้องกันความเสี่ยงด้านมูลค่าของเงิน โดยเงินเฟ้อที่สูงอย่างต่อเนื่องในปีนี้น่าจะยังสนับสนุนราคาทองคำ - ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง (Uncertainty)
ความเสี่ยงจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งระหว่างประเทศ หรือวิกฤตเศรษฐกิจในบางภูมิภาค ส่งผลให้การถือครองทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากทองคำถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนไว้วางใจในช่วงความผันผวน - อุปสงค์ในตลาดจีนและอินเดีย
จีนและอินเดียเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ของโลก หากอุปสงค์ในประเทศเหล่านี้เพิ่มขึ้น จะช่วยหนุนราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเศรษฐกิจจีนยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการทองคำในระยะสั้น - การประชุมของธนาคารกลาง (Fed Meeting)
หากธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจสร้างแรงหนุนต่อราคาทองคำ เนื่องจากต้นทุนในการถือทองคำลดลงสำหรับนักลงทุน
จากปัจจัยเหล่านี้ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันพรุ่งนี้จะขึ้นอยู่กับทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ การตัดสินใจด้านนโยบายการเงิน และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก นักลงทุนควรติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเพื่อปรับกลยุทธ์ได้อย่างเหมาะสม
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
- แนวโน้มของกราฟ (Price Movement)
- ราคาทองคำล่าสุดมีการปรับตัวขึ้นในช่วงปลายของกราฟ สังเกตได้จากแท่งเทียนขาขึ้น (แท่งเขียว) ที่มีขนาดใหญ่กว่าขาลงก่อนหน้า ซึ่งบ่งบอกถึงแรงซื้อที่เข้ามา.
- อย่างไรก็ตาม ระดับแนวต้านที่บริเวณ 2,700 ดอลลาร์อาจเป็นอุปสรรค หากแรงซื้อไม่สามารถทะลุผ่านได้ อาจเกิดการปรับฐานในระยะสั้น.
- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- เส้น MACD (เส้นสีน้ำเงิน) ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal Line (เส้นสีส้ม) ซึ่งเป็นสัญญาณของการปรับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น.
- Histogram ที่กลับมาเป็นค่าบวก บ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มเข้ามาครองตลาดหลังจากที่แรงขายลดลง.
- Volume (ปริมาณการซื้อขาย)
- ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาขึ้น (แท่งเขียว) ซึ่งยืนยันว่ามีแรงซื้อสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของราคา.
- หาก Volume ในแท่งขาขึ้นถัดไปสูงกว่าช่วงนี้ จะเพิ่มความน่าเชื่อถือของแนวโน้มขาขึ้น.
แนวโน้มที่คาดการณ์
- ถ้าทะลุแนวต้าน 2,700 ดอลลาร์สำเร็จ: ราคาทองคำอาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่เป้าหมายถัดไปที่ 2,720-2,740 ดอลลาร์.
- หากปรับตัวลง แนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 2,680 ดอลลาร์ หากแนวรับนี้ไม่ถูกทะลุ ราคาจะยังคงความแข็งแกร่งในระยะสั้น.
ข้อสรุป ราคาทองคำมีแนวโน้มขาขึ้น แต่ควรจับตาดูปริมาณการซื้อขายและแนวต้านสำคัญที่ 2,700 ดอลลาร์เพื่อยืนยันทิศทางในวันถัดไป
