ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันที่ 1 มกราคม 2568 มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์หลายประการ ดังนี้
1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
- นโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) การคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2568 ส่งผลต่อราคาทองคำ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงมักทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย
- ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาทองคำมักเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับดอลลาร์สหรัฐฯ หากดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำมักปรับตัวสูงขึ้น
2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
- ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง สถานการณ์ความไม่สงบในภูมิภาคนี้อาจกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น
- การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลการเลือกตั้งที่ทำให้เกิดการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างรุนแรง อาจเพิ่มความไม่แน่นอนในตลาดการเงิน และส่งผลต่อความต้องการทองคำ
3. ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำล่าสุด
- เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ราคาทองคำปรับขึ้น 50 บาท โดยทองคำแท่งขายออกที่บาทละ 42,300 บาท และทองรูปพรรณขายออกที่บาทละ 42,800 บาท
ราคาทองคำในวันที่ 1 มกราคม 2568 มีแนวโน้มผันผวน โดยได้รับอิทธิพลจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเฟด ความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯ และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและปัจจัยต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
1. การเคลื่อนไหวของราคา (Price Action)
- ราคามีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงท้ายของกราฟ แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มกลับมา
- ราคาทองคำปิดอยู่บริเวณแนวต้านที่สำคัญใกล้ $2,617 โดยมีแรงซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าราคาทองคำมีโอกาสทะลุแนวต้านนี้ไปได้
2. ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators)
- MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- เส้น MACD ตัดเส้น Signal Line ขึ้น (Bullish Crossover) ซึ่งบ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นในระยะสั้น
- ฮิสโตแกรม (Histogram) เปลี่ยนจากค่าลบเป็นค่าบวก แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
- RSI (Relative Strength Index)
- RSI อยู่ที่ระดับประมาณ 63 ซึ่งยังไม่เข้าสู่เขต Overbought (70+) แต่บ่งบอกถึงแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น
- มีแนวโน้มที่จะขึ้นต่อในระยะสั้น
3. แนวรับและแนวต้านสำคัญ
- แนวรับ บริเวณ $2,605-$2,610 ซึ่งเป็นระดับที่ราคาปรับตัวลงมาทดสอบและดีดตัวกลับ
- แนวต้าน บริเวณ $2,617-$2,625 หากราคาทะลุผ่านแนวต้านนี้ อาจเห็นเป้าหมายต่อไปที่ $2,635 หรือสูงกว่านั้น
4. สรุปแนวโน้ม
- จากการวิเคราะห์กราฟและตัวชี้วัด ราคาทองคำมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นในระยะสั้น โดยหากราคาสามารถทะลุแนวต้าน $2,617 ได้สำเร็จ อาจเห็นการปรับตัวขึ้นต่อไปที่ $2,625 หรือ $2,635
- อย่างไรก็ตาม หากราคาปรับตัวลง ควรจับตาแนวรับบริเวณ $2,605-$2,610 เป็นจุดสำคัญ
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
- นักลงทุนระยะสั้น หากราคาทะลุแนวต้าน $2,617 สามารถพิจารณาเข้าซื้อเพื่อทำกำไรในกรอบ $2,625-$2,635
- นักลงทุนระยะยาว ติดตามปัจจัยพื้นฐาน เช่น นโยบายดอกเบี้ยและสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำในภาพรวม