แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

การวิเคราะห์ราคาทองคำสำหรับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 โดยพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดังนี้

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568

1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

  • อัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน สภาทองคำโลก (World Gold Council) ได้เผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความต้องการทองคำทั่วโลก การปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลง เนื่องจากทองคำไม่มีผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น
  • อัตราเงินเฟ้อ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่สามารถป้องกันความเสี่ยงจากการลดค่าของเงิน ซึ่งทองคำถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่นิยมใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์

  • ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมองหาทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
  • ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง เช่น ความขัดแย้งในอิสราเอลและเลบานอน ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง
แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ดังกล่าวมีแนวโน้มสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและปัจจัยเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568

1. แนวโน้มราคา (Trend Analysis)

  • ราคาทองคำเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideways (แกว่งตัวในกรอบแคบ) ในช่วงท้ายของกราฟ
  • ก่อนหน้านี้มีการปรับตัวขึ้นแรง แต่ตามมาด้วยแรงเทขายทำให้ราคาแกว่งตัวลง
  • ราคามีแนวต้านบริเวณ 2,870 – 2,872 และแนวรับที่ 2,850 – 2,855

2. อินดิเคเตอร์ MACD (Moving Average Convergence Divergence)

  • ค่า MACD อยู่ในโซนบวกเล็กน้อย (MACD = 1.717, Signal = 1.881)
  • Histogram เริ่มแสดงค่าลดลงและเป็นแท่งสีแดงเล็ก ๆ บ่งบอกถึงการชะลอตัวของแรงซื้อ
  • MACD และ Signal Line เริ่มเข้าใกล้กัน มีโอกาสเกิดสัญญาณ Bearish Crossover หาก MACD ตัดเส้น Signal ลงมา ซึ่งจะเป็นสัญญาณลบต่อแนวโน้มราคา

3. ปริมาณการซื้อขาย (Volume Analysis)

  • มี แรงขายหนักช่วงกลางกราฟ แต่เริ่มมีแรงซื้อกลับมาช่วยพยุงราคาในช่วงท้าย
  • ปริมาณการซื้อขายลดลงเมื่อราคาฟื้นตัวขึ้น แสดงว่าโมเมนตัมขาขึ้นยังไม่แข็งแรงพอ
  • อาจต้องจับตาดูว่าหากมี Volume มากขึ้น ราคาสามารถทะลุแนวต้านสำคัญได้หรือไม่

สรุปแนวโน้ม

  • ราคาทองคำกำลังอยู่ใน ภาวะชะลอตัว และอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 2,855 – 2,870
  • หาก MACD เกิด Bearish Crossover อาจส่งสัญญาณ ปรับฐานลงมาที่แนวรับ 2,850
  • หากราคาทะลุแนวต้าน 2,872 ขึ้นไป อาจเกิดแนวโน้มขาขึ้นใหม่

กลยุทธ์การเทรด

  • ฝั่งซื้อ (Long) ควรรอให้ราคาทะลุ 2,872 พร้อม Volume เพิ่มขึ้นก่อนเปิดสถานะซื้อ
  • ฝั่งขาย (Short) หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 2,870 ได้และ MACD อ่อนแรง ควรพิจารณาเปิดสถานะขายที่แนวต้าน