แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

การวิเคราะห์ราคาทองคำสำหรับวันที่ 13 มีนาคม 2568 โดยพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดังนี้

1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

  • นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีการคาดการณ์ว่า Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงกลางถึงปลายปี 2568 เพื่อลดผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การลดดอกเบี้ยจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ หากเงินเฟ้อยังคงสูง อาจกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ

2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์

  • ความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ สงคราม ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และความตึงเครียดทางการเมือง เช่น สถานการณ์ในยูเครน-รัสเซีย ตะวันออกกลาง หรือการขยายอิทธิพลของ BRICS อาจทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น หากเกิดวิกฤติรุนแรง ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากปัจจัยดังกล่าว ราคาทองคำในวันที่ 13 มีนาคม 2568 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากตลาดยังคงมีความผันผวนสูง

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

1. แนวโน้มราคา (Trend Analysis)

  • ราคาทองคำในกราฟมีการเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up หรือแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น
  • มีแรงซื้อเข้ามาในช่วงที่ราคาปรับตัวลง ซึ่งสะท้อนว่ามีแรงรับที่แข็งแกร่ง
  • บริเวณ แนวรับ (Support) สำคัญอยู่ที่ประมาณ 2,900 – 2,905 USD
  • บริเวณ แนวต้าน (Resistance) สำคัญอยู่ที่ประมาณ 2,920 – 2,925 USD

2. อินดิเคเตอร์ทางเทคนิค

  • MACD (Moving Average Convergence Divergence)
    • เส้น MACD และเส้น Signal กำลังเคลื่อนที่ใกล้กันมาก แสดงถึงแนวโน้มการพักตัวของราคา
    • ค่า Histogram ลดลง ซึ่งบ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่อ่อนแรงลง
    • หาก MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal จะเป็นสัญญาณซื้อ
    • แต่หาก MACD ตัดลงต่ำกว่าเส้น Signal อาจเป็นสัญญาณของแรงขาย
  • Volume (ปริมาณการซื้อขาย)
    • ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้น แสดงว่ามีแรงซื้อมากพอที่จะดันราคาให้สูงขึ้น
    • อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายล่าสุดเริ่มลดลง อาจหมายถึงความลังเลของตลาด

3. สรุปการคาดการณ์แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2568

  • หากราคาสามารถทะลุแนวต้าน 2,920 – 2,925 USD ไปได้ อาจมีโอกาสปรับขึ้นไปที่ระดับถัดไปที่ 2,930 – 2,935 USD
  • หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน อาจเกิดแรงขายกดลงมาใหม่ โดยมีแนวรับที่ 2,900 – 2,905 USD
  • MACD ยังไม่มีสัญญาณชัดเจน ต้องรอดูการตัดขึ้นหรือลงของเส้น MACD และ Signal เพื่อยืนยันแนวโน้ม