ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
การวิเคราะห์ราคาทองคำสำหรับวันที่ 7 พฤศจิกายน 2024 คาดว่าจะมีความผันผวนเนื่องจากหลายปัจจัยพื้นฐานสำคัญ ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ส่งผลต่อความต้องการลงทุนในทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ถือว่าปลอดภัยในยามความไม่แน่นอนของตลาด
- การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และนโยบายดอกเบี้ย ในช่วงนี้ Fed มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยหรือปรับลดตามสภาวะเศรษฐกิจ หาก Fed ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยหรือมีการลดอัตราดอกเบี้ย อาจส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากต้นทุนในการถือครองทองคำลดลงและน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติ
- ภาวะเศรษฐกิจโลกและสงครามการค้า เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ทั้งจากปัญหาหนี้สาธารณะของบางประเทศและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากประเทศเศรษฐกิจหลักอย่างจีนและยุโรป การชะลอตัวเหล่านี้ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น จึงมีผลกระทบเชิงบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น
- ราคาทองคำจากตลาดเอเชีย จีนและอินเดียเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก การปรับเปลี่ยนความต้องการในตลาดทั้งสองประเทศนี้มีผลต่อราคาทองคำโดยตรง โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ใกล้เทศกาลสำคัญและฤดูกาลแต่งงานในอินเดีย ทำให้ความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้
จากปัจจัยข้างต้นราคาทองคำในวันพรุ่งนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยและสภาวะเศรษฐกิจโลกและการกลับมาของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อราคาทองคำ โดยตลาดทองคำอาจมีความผันผวนตามแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองจากผลการเลือกตั้งก็อาจกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าหาทองคำเพื่อเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ราคาทองคำอาจมีการปรับตัวสูงขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
- แนวโน้มราคา กราฟราคาทองคำในปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงแรงขายอย่างชัดเจน โดยมีแท่งเทียนสีแดงจำนวนมาก ซึ่งบ่งบอกถึงแรงกดดันจากผู้ขายที่มีมากกว่าผู้ซื้อ ราคาได้ลดต่ำกว่าระดับ 2,720 USD และกำลังเข้าใกล้ระดับ 2,710 USD ซึ่งอาจเป็นระดับแนวรับถัดไป
- MACD Analysis ตัวบ่งชี้ MACD ในกราฟอยู่ในระดับติดลบ (-4.33) และยังไม่เห็นสัญญาณของการกลับตัวขึ้น (Crossover) ของเส้นสัญญาณ MACD ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่ยังคงดำเนินต่อไป นอกจากนี้ เส้นสัญญาณสีฟ้าอยู่ต่ำกว่าเส้นสีส้ม แสดงถึงสภาวะตลาดขาลงอย่างชัดเจน
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในช่วงขาลงบ่งชี้ถึงแรงขายที่เข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ราคามีโอกาสที่จะปรับตัวลงต่อ อย่างไรก็ตาม หากมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลงในช่วงต่อไป อาจเป็นสัญญาณการอ่อนตัวของแนวโน้มขาลงได้
- แนวรับและแนวต้าน แนวรับที่สำคัญต่อไปอาจอยู่ที่ประมาณ 2,700 USD หากราคาทองคำปรับตัวลดลงและสามารถทะลุแนวรับนี้ไปได้ อาจทำให้เกิดแนวโน้มขาลงต่อไป แต่หากราคายืนเหนือ 2,710 USD ได้ ก็อาจจะเกิดการฟื้นตัวระยะสั้น
สรุปแนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิค
แนวโน้มราคาทองคำในวันพรุ่งนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีสัญญาณการกลับตัวหรือปริมาณการซื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงแนวรับ