ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของราคาทองคำในวันที่ 26 ตุลาคม 2024 สามารถพิจารณาจากหลายปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาทองคำในตลาดโลก ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed)
อัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำ หาก Fed ยังคงดอกเบี้ยสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากดอกเบี้ยที่สูงทำให้พันธบัตรและสินทรัพย์ที่มีดอกเบี้ยให้ผลตอบแทนสูงมีความน่าสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หาก Fed มีสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือเริ่มผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน อาจทำให้ทองคำได้รับแรงหนุนกลับมาเพิ่มขึ้นได้
2. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
ค่าเงินดอลลาร์มีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาทองคำ เมื่อค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาทองคำที่ซื้อขายด้วยดอลลาร์จะปรับตัวลดลง เนื่องจากทองคำจะแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ราคาทองคำจะมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นจากแรงซื้อของนักลงทุนทั่วโลก
3. อุปสงค์และอุปทานของทองคำ
การเติบโตของเศรษฐกิจจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นสองประเทศที่มีการบริโภคทองคำมากที่สุดในโลก มีผลต่ออุปสงค์ทองคำ หากเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้เติบโตช้าลง อาจทำให้ความต้องการทองคำในภาคเครื่องประดับและการลงทุนลดลง ส่งผลให้ราคาทองคำอาจลดลงตามไปด้วย
4. ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Tensions)
เหตุการณ์ความไม่แน่นอนในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ความตึงเครียดทางการเมือง ความขัดแย้งทางทหาร หรือวิกฤตเศรษฐกิจ มักจะเพิ่มความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หากมีเหตุการณ์ความไม่แน่นอนเกิดขึ้น ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้นได้ เนื่องจากนักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากกว่า
5. อัตราเงินเฟ้อ (Inflation)
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ ดังนั้น หากมีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต นักลงทุนนิยมซื้อทองคำเพื่อป้องกันมูลค่าของสินทรัพย์จากการลดลงของค่าเงิน ซึ่งอาจหนุนให้ราคาทองคำเพิ่มสูงขึ้นในระยะสั้น
สรุปแนวโน้ม
สำหรับวันที่ 26 ตุลาคม 2024 ปัจจัยพื้นฐานบ่งชี้ว่าราคาทองคำอาจมีการเคลื่อนไหวที่ผันผวนตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงทิศทางของดอกเบี้ยและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นหากยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Fed หรือเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญ ราคาทองคำอาจจะทรงตัวหรือมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
- แนวโน้มในปัจจุบัน
- กราฟแท่งเทียนแสดงถึงความผันผวน โดยมีการขึ้นและลงในช่วงสั้น ๆ ขณะนี้ราคาทองคำอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากการลดลงก่อนหน้า
- เส้น MACD (เส้นสีฟ้า) อยู่ต่ำกว่าเส้น Signal Line (เส้นสีส้ม) ซึ่งเป็นสัญญาณของการเทรนด์ขาลง อย่างไรก็ตาม เราจะสังเกตว่ากราฟกำลังมีการบีบตัว เส้น MACD มีแนวโน้มกลับตัวตัดขึ้น ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงการเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น
- Volume
- ปริมาณการซื้อขายในช่วงการฟื้นตัวมีความแข็งแรงมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการลดลงก่อนหน้านี้ แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มเข้ามาในตลาด
- การเคลื่อนไหวของราคา
- ราคาตอนนี้อยู่ใกล้บริเวณ 2,726.315 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ หากสามารถทะลุแนวต้านนี้ไปได้ มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปทดสอบบริเวณ 2,740 หรือสูงกว่า
- ในทางกลับกัน หากราคาไม่สามารถทะลุแนวต้านดังกล่าว อาจเกิดการปรับฐานกลับไปที่ระดับ 2,715 ซึ่งเป็นแนวรับแรก
แนวโน้มของวันพรุ่งนี้
- หากเส้น MACD ตัดขึ้นและปริมาณการซื้อขายยังคงเพิ่มขึ้น โอกาสที่ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นในวันพรุ่งนี้มีสูง โดยเป้าหมายการขึ้นคือบริเวณ 2,740-2,750 ดอลลาร์
- แต่หากปริมาณการซื้อขายลดลงและราคาลดต่ำกว่า 2,715 แนวโน้มขาลงอาจเกิดขึ้น และราคาจะกลับไปที่ระดับต่ำกว่า 2,705