แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 23 มกราคม 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

การวิเคราะห์ราคาทองคำสำหรับวันที่ 23 มกราคม 2568 โดยพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ มีดังนี้

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 23 มกราคม 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

  1. นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) หลังจากที่หลายประเทศสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ดีขึ้น คาดว่าธนาคารกลางหลายแห่งจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในไตรมาส 4 ปี 2024 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2025 ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำจะลดลง
  2. ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ: ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำระยะสามเดือนในไตรมาสแรกของปี 2568 ปรับลดลงจากไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 จากระดับ 69.08 จุด มาอยู่ที่ระดับ 56.12 จุด ลดลง 12.96 จุด หรือคิดเป็น 18.76% โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีฯ ปรับลดลง ได้แก่ ทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) การแข็งค่าของเงินบาท กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ดอลลาร์สหรัฐ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เริ่มคลี่คลาย และนโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์

  1. ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง: ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง หลังจากกลุ่มกบฏโค่นล้มรัฐบาลซีเรีย ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
  2. ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ: ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทำให้เกิดการแบ่งขั้วกันอย่างรุนแรงมากขึ้น ส่งผลต่อความสนใจในการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 23 มกราคม 2568

สำหรับวันที่ 23 มกราคม 2568 ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่กล่าวมาข้างต้น อย่างไรก็ตาม ควรติดตามข่าวสารและปัจจัยต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 23 มกราคม 2568

1. แนวโน้มราคา (Price Trend)

  • กราฟแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่อยู่ในช่วง ขาขึ้น (Uptrend) โดยมีจุดต่ำสุด (Higher Lows) และจุดสูงสุด (Higher Highs) ใหม่ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งบ่งบอกถึงแรงซื้อที่เข้ามาเพิ่มขึ้นในตลาด
  • แนวต้านปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 2,762 และแนวรับสำคัญอยู่ที่ประมาณ 2,740

2. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)

  • ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในกราฟช่วงที่ราคาเพิ่มขึ้น มีลักษณะ เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แสดงถึงการสนับสนุนของแรงซื้อในช่วงแนวโน้มขาขึ้น
  • เมื่อราคาเข้าสู่ช่วงพักตัวหรือปรับฐาน (Consolidation) ปริมาณการซื้อขายลดลง ซึ่งถือเป็นปกติของตลาดที่กำลังสร้างแรงซื้อใหม่

3. ตัวชี้วัด MACD

  • เส้น MACD (สีน้ำเงิน) อยู่เหนือเส้น Signal (สีส้ม) และค่า MACD อยู่ในแดนบวก (Positive Territory) บ่งบอกถึง โมเมนตัมเชิงบวก (Bullish Momentum) ที่กำลังแข็งแกร่ง
  • ฮิสโตแกรมของ MACD แสดงค่าบวกและเริ่มมีการขยายตัว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าราคามีแนวโน้มขาขึ้นต่อ

4. การวิเคราะห์แนวรับ-แนวต้าน

  • แนวรับ (Support) 2,740 และ 2,730 เป็นจุดสำคัญที่ควรจับตามอง หากราคาปรับตัวลดลง
  • แนวต้าน (Resistance) 2,762 และ 2,770 เป็นระดับที่ราคาอาจทดสอบในอนาคต

สรุปเชิงเทคนิค

ราคาทองคำในกราฟนี้มีแนวโน้มที่ยังคง เป็นขาขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากโมเมนตัมเชิงบวกและแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรจับตาดูแนวต้านที่ระดับ 2,762 และการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขาย หากราคาทะลุแนวต้านนี้ได้ อาจเห็นการปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 2,770

หากราคาย่อตัว แนวรับสำคัญที่ต้องจับตามองคือ 2,740 และ 2,730 ควรระวังการพักตัวหรือตลาดเข้าสู่ภาวะไร้ทิศทาง (Sideway)