ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

ราคาทองคำในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ ดังนี้
1. การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
นักลงทุนกำลังรอคอยผลการประชุมของเฟด ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดการณ์ จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
2. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
สถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะการปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในซีเรีย ยังคงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสนใจ เนื่องจากความไม่แน่นอนในภูมิภาคนี้มักกระตุ้นความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
3. การเคลื่อนไหวของกองทุน SPDR Gold Trust
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำในวันที่ 21 ธันวาคม 2567 โดยยังคงถือครองที่ระดับ 860.74 ตัน การที่กองทุนไม่ได้ซื้อหรือขายทองคำเพิ่มเติมอาจบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนของนักลงทุนต่อทิศทางราคาทองคำในระยะสั้น
4. ค่าเงินบาทและราคาทองคำในประเทศ
สำหรับประเทศไทย ราคาทองคำในประเทศยังคงได้รับอิทธิพลจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ซึ่งอาจช่วยพยุงราคาทองคำในประเทศไม่ให้ปรับตัวลดลงมากนัก แม้ว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวลดลงก็ตาม

ราคาทองคำในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 มีแนวโน้มผันผวน โดยปัจจัยจากการประชุมเฟดและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจสนับสนุนให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่กองทุน SPDR ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำอาจบ่งชี้ถึงความไม่แน่นอนของนักลงทุน นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและปัจจัยต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

1. การเคลื่อนไหวของราคา
- ราคาเคลื่อนไหวในลักษณะปรับฐาน (Consolidation) หลังจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนหน้า
- มีแรงขายในช่วงที่ราคาเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ (~2,630 ดอลลาร์) โดยยังไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้
2. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาเริ่มฟื้นตัว แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง
- ช่วงปัจจุบันปริมาณเริ่มลดลง อาจบ่งชี้ถึงความลังเลของตลาดหรือการรอปัจจัยใหม่
3. MACD Indicator
- เส้น MACD (น้ำเงิน) และ Signal Line (ส้ม) มีสัญญาณการตัดกันใกล้เคียงกับจุด Overbought
- Histogram เริ่มลดความชันลง ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงแรงส่งที่เริ่มอ่อนตัว
4. แนวต้านและแนวรับสำคัญ
- แนวต้านสำคัญ: 2,630 ดอลลาร์ หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ มีโอกาสปรับขึ้นต่อไปที่ ~2,650 ดอลลาร์
- แนวรับสำคัญ: 2,610 ดอลลาร์ หากราคาหลุดต่ำกว่านี้ อาจปรับตัวลงไปทดสอบที่ระดับ 2,590 ดอลลาร์
5. แนวโน้มราคา (โดยรวม)
- ระยะสั้น: ราคามีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ 2,610 – 2,630 ดอลลาร์
- ระยะกลาง: หากราคาสามารถทะลุ 2,630 ดอลลาร์ จะส่งสัญญาณขาขึ้นเพิ่มเติม
- หากไม่สามารถทะลุแนวต้านได้ อาจเกิดการปรับฐานหรือพักตัวชั่วคราว
คำแนะนำ
- สำหรับนักลงทุนระยะสั้น เฝ้าดูพฤติกรรมราคาที่แนวต้าน 2,630 ดอลลาร์ หากทะลุได้อาจพิจารณาเข้าซื้อ
- สำหรับนักลงทุนระยะยาว รอความชัดเจนของปัจจัยพื้นฐานเพิ่มเติม เช่น นโยบายธนาคารกลางหรือสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์
