แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

สำหรับการวิเคราะห์ราคาทองคำจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดทองคำ รวมถึงปัจจัยจากภาวะเศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯ ที่จะส่งผลต่อแนวโน้มราคาทองคำในวันพรุ่งนี้

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567
  1. การประชุมกลุ่ม BRICS อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีบทบาทในราคาทองคำคือการประชุมกลุ่ม BRICS ซึ่งอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะการผลักดันให้ประเทศในกลุ่มนี้มีบทบาทมากขึ้นในการถ่วงดุลกับชาติตะวันตก
  2. ข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ คืนนี้สหรัฐฯ จะมีการประกาศตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนตุลาคม ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก ปัจจัยนี้อาจไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อตลาดทองคำ แต่หากมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ดีกว่าคาดหรือแย่กว่าคาด ก็อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะสั้น
  3. แนวโน้มจากภาวะเงินเฟ้อ หากมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ชี้ให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในสหรัฐฯ หรือประเทศหลักอื่นๆ จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำยังคงมีการขยับขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า
แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567

โดยรวมแล้ว แนวโน้มราคาทองคำในวันพรุ่งนี้ (20 พฤศจิกายน 2567) น่าจะขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก หากข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาไม่เปลี่ยนแปลงมาก ทองคำอาจจะยังเคลื่อนไหวในช่วงที่มีการปรับตัวขึ้นหรือลงเล็กน้อยในกรอบที่มีการทดสอบระหว่าง 2,610-2,640 ดอลลาร์

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567

1. แนวโน้มราคาปัจจุบัน

  • ราคาทองคำอยู่ในช่วง ขาขึ้น (Uptrend) อย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวจากจุดต่ำสุดใกล้ 2,520 ดอลลาร์ไปสู่ระดับปัจจุบันที่ 2,635 ดอลลาร์ การสร้างระดับราคาที่สูงขึ้น (Higher High) และระดับต่ำสุดที่สูงขึ้น (Higher Low) บ่งบอกว่าตลาดยังมีแรงซื้อที่แข็งแรง
  • แนวต้านสำคัญถัดไปที่ควรจับตาคือ 2,640-2,650 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นบริเวณที่เคยมีแรงขายในอดีต หากราคาสามารถทะลุแนวนี้ไปได้ อาจเกิดโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่งขึ้น

2. การเคลื่อนไหวของ MACD

  • เส้น MACD (สีฟ้า) ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal Line (สีส้ม) อย่างชัดเจน และตัว Histogram มีค่าบวกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบ่งบอกถึงแรงซื้อที่แข็งแรง
  • MACD อยู่ในเขต บวก แสดงว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Momentum) อย่างชัดเจน
  • อย่างไรก็ตาม หากราคาทองคำปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจมีโอกาสเกิดภาวะ Overbought ซึ่งทำให้เกิดการพักฐานในระยะสั้นได้

3. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)

  • Volume เพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้น บ่งบอกว่ามีแรงสนับสนุนที่ชัดเจนจากตลาด นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับการซื้อทองคำในสถานการณ์ปัจจุบัน
  • หาก Volume ลดลงในขณะที่ราคาขึ้นต่อ อาจเป็นสัญญาณว่าตลาดขาดแรงสนับสนุน และราคามีโอกาสชะลอตัว

สรุปราคาทองคำในวันพรุ่งนี้

ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นถึงกลาง หากราคาสามารถทะลุแนวต้านที่ 2,640-2,650 ดอลลาร์ได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นสู่ 2,675-2,700 ดอลลาร์ ได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาการพักฐานในระยะสั้นหากราคาปรับตัวเร็วเกินไป

ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยพื้นฐาน เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ หรือการปรับท่าทีของธนาคารกลาง ราคาทองคำอาจเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่ไม่คาดคิด