แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2567

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

ราคาทองคำในวันที่ 17 ธันวาคม 2024 มีแนวโน้มเคลื่อนไหวเชิงบวก ตามปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่ยังคงสนับสนุนราคาสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำ ได้แก่

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2567
  1. แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
    นักวิเคราะห์มองว่า เฟดมีแนวโน้มจะลดดอกเบี้ยในปี 2024 ซึ่งจะกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้ราคาทองคำมีแรงหนุน เนื่องจากทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ ส่งผลให้ความต้องการทองคำในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น
  2. ปัจจัยความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
    สถานการณ์ความไม่สงบในหลายพื้นที่ เช่น ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ยังคงเป็นแรงผลักดันให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะทองคำ ซึ่งเป็นที่ต้องการในช่วงสถานการณ์ตึงเครียด
  3. การซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก
    จากข้อมูลของสภาทองคำโลก ธนาคารกลางหลายประเทศยังคงเพิ่มการถือครองทองคำสำรอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถือเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสินทรัพย์หลัก ซึ่งสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว

ปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม

  • เงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้เงินเฟ้อจะมีการชะลอตัว แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ ทำให้ทองคำยังคงมีบทบาทในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
  • ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง การคาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าต่อเนื่อง ยังคงเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2567

ปัจจัยพื้นฐานยังคงเป็นบวกต่อราคาทองคำในวันพรุ่งนี้ (17 ธันวาคม 2024) โดยเฉพาะการคาดการณ์ลดดอกเบี้ยของเฟด ความเสี่ยงจากความไม่สงบทางการเมือง และการซื้อทองคำสำรองโดยธนาคารกลาง อย่างไรก็ตาม ควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งอาจมีผลต่อทิศทางราคาทองคำ

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 17 ธันวาคม 2567

1. สัญญาณ MACD

  • เส้น MACD (สีน้ำเงิน) ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal (สีส้ม) ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกบ่งบอกถึง แนวโน้มขาขึ้น ในระยะสั้น
  • อย่างไรก็ตาม ค่า MACD ยังอยู่ใกล้ ระดับ 0 ซึ่งหมายความว่าโมเมนตัมของตลาดยังไม่แข็งแกร่งมากนัก

2. แนวรับ-แนวต้าน

  • แนวรับสำคัญ อยู่บริเวณ 2,650 ดอลลาร์/ออนซ์ (จุดต่ำสุดในรอบการซื้อขายล่าสุด)
  • แนวต้านแรก อยู่บริเวณ 2,660-2,665 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของการรีบาวด์ครั้งล่าสุด
  • หากราคาสามารถทะลุแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ มีโอกาสทดสอบจุดสูงกว่า 2,670 ดอลลาร์/ออนซ์

3. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)

  • ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงขาลง แสดงถึงแรงขายที่แข็งแกร่ง
  • อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายกราฟที่ราคาเริ่มฟื้นตัว ปริมาณการซื้อขายยังไม่สูงมากนัก แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อยังคงระมัดระวัง

สรุปแนวโน้ม

  • แนวโน้มระยะสั้น ราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัวจากแนวรับที่ 2,650 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีสัญญาณเชิงบวกจาก MACD
  • อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายที่ยังไม่หนาแน่นอาจทำให้การปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัด
  • ควรจับตาแนวต้านที่ 2,660-2,665 ดอลลาร์/ออนซ์ หากไม่สามารถทะลุได้ อาจมีการย่อตัวกลับลงมาที่แนวรับเดิม

หากมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐ หรือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวันพรุ่งนี้ ควรติดตามเพิ่มเติม เพราะปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้สามารถสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำได้มาก