ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

- สงครามการค้าสหรัฐฯ–จีนทวีความตึงเครียด
สหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เร็ว ๆ นี้ ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ และจำกัดการส่งออกแร่หายาก สถานการณ์นี้ทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น - ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ แข็งแกร่งเกินคาด
การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่ง สูงกว่าคาดที่ 139,000 ตำแหน่ง ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจกระทบต่อโอกาสในการลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ - เงินบาทอ่อนค่า หนุนราคาทองในประเทศ
ค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่าที่ระดับ 34.5 บาท/ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศยังมีแรงหนุนแม้ราคาทองโลกจะมีแรงขายบ้าง

ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศและเงินบาทที่อ่อนค่า แม้จะถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแรง
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

แนวโน้มราคา
ราคาทองปรับตัวลงมาจากจุดสูงก่อนหน้า และรีบาวด์กลับขึ้นมาบริเวณ 3,030 ดอลลาร์ กำลังเคลื่อนไหวในกรอบแคบแบบพักฐานรอทิศทางใหม่
MACD
MACD ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal อย่างชัดเจน พร้อม Histogram เป็นบวก แสดงถึงแรงซื้อที่เริ่มกลับเข้ามา เป็นสัญญาณ “ขาขึ้นระยะสั้น”
Volume
ช่วงราคาร่วงมีแรงขายมาก แต่ช่วงฟื้นตัวมี Volume ฝั่งซื้อกลับเข้ามา แสดงว่าแนวรับเริ่มแข็งแรงขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำในวันพรุ่งนี้ (8 เม.ย. 2568)
- หากราคายืนเหนือ 3,020 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง มีโอกาสดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,040 – 3,055 ดอลลาร์
- แต่หากหลุดแนวรับ 3,020 ดอลลาร์อีกครั้ง อาจกลับไปทดสอบบริเวณ 2,985 ดอลลาร์
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน
- นักลงทุนระยะสั้น
- รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวใกล้ 3,020 ดอลลาร์ หรือเล่นรอบเมื่อราคาเบรกเหนือ 3,040 ดอลลาร์สำเร็จ
- นักลงทุนระยะกลางถึงยาว
- แนวโน้มโดยรวมยังมีความเสี่ยงผันผวนสูง ควรถือครองบางส่วนและทยอยสะสมในช่วงที่ราคาย่อตัวแรง
- ควรติดตามข่าว
- สถานการณ์ภาษีระหว่างประเทศ
- ตัวเลข CPI สหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์หน้า