แนวโน้มราคาทองคำ ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2568

ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

การวิเคราะห์ราคาทองคำสำหรับวันที่ 12 มีนาคม 2568 โดยพิจารณาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดังนี้

1. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ

  • นโยบายภาษีของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยจีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าเกษตร 10-15% ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2568 แคนาดาและเม็กซิโกก็ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เช่นกัน
  • การประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียม สหรัฐฯ มีแผนจะประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมอีก 25% จากทุกประเทศในวันที่ 12 มีนาคม 2568 ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ เช่น แคนาดา บราซิล และเม็กซิโก

2. ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์

  • ความตึงเครียดทางการค้า การตอบโต้ทางภาษีระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจึงหันมาถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

จากปัจจัยดังกล่าว ราคาทองคำในวันที่ 12 มีนาคม 2568 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากตลาดยังคงมีความผันผวนสูง

แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม

1. แนวโน้มราคา (Trend Analysis)

  • จากกราฟแท่งเทียนในช่วงล่าสุด ราคาอยู่ใน แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) โดยมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากจุดต่ำสุดก่อนหน้า
  • การที่ราคาทองคำทะลุระดับแนวต้านย่อยก่อนหน้า แสดงถึงแรงซื้อที่แข็งแกร่ง

2. Indicator Analysis

MACD (Moving Average Convergence Divergence)
  • ค่า MACD line (เส้นสีน้ำเงิน) อยู่เหนือ Signal line (เส้นสีส้ม) แสดงถึง โมเมนตัมขาขึ้น
  • ค่า MACD มีการตัดขึ้นเหนือเส้นศูนย์ (0) ซึ่งเป็นสัญญาณบวก แสดงถึงการเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้น
Volume
  • ปริมาณการซื้อขาย (Volume) มีการเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น แสดงถึงแรงซื้อที่เข้ามาสนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น

3. แนวรับและแนวต้าน

  • แนวรับสำคัญ บริเวณ 2,888 – 2,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีแรงซื้อเข้ามามากก่อนหน้านี้
  • แนวต้านสำคัญ บริเวณ 2,916 – 2,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดก่อนหน้าที่อาจมีแรงขายทำกำไร

4. สัญญาณการเทรด

  • แนวโน้มขาขึ้น หากราคาสามารถทะลุแนวต้าน 2,916 – 2,920 ได้ มีโอกาสไปทดสอบระดับ 2,930 – 2,935 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • จุดเข้าซื้อที่ดี หากราคาย่อตัวลงมาใกล้แนวรับ 2,900 – 2,905 แล้วมีแรงดีดกลับ อาจเป็นโอกาสเข้าซื้อ
  • จุดขายทำกำไร หากราคาปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้าน 2,916 – 2,920 ควรระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น

5. สรุปแนวโน้ม

แนวโน้มระยะสั้น เป็นขาขึ้น เนื่องจากโมเมนตัมบวกของ MACD และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น
กลยุทธ์การเทรด รอจังหวะย่อตัวเข้าซื้อ หรือรอการเบรกแนวต้าน 2,916 – 2,920 เพื่อ Follow Buy
ข้อควรระวัง หากราคาหลุดแนวรับ 2,888 – 2,900 อาจมีแรงขายเพิ่มขึ้นและเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลงได้