ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้อาจมีความผันผวน โดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยสำคัญหลายประการ
- การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) นักลงทุนยังคงจับตาดูแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยของ FED ซึ่งหากมีการคงอัตราดอกเบี้ยหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจสร้างแรงกดดันต่อราคาทอง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้การถือครองทองคำซึ่งไม่มีดอกเบี้ยเป็นตัวเลือกที่ไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ ที่มีผลตอบแทนสูงกว่า
- ความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับค่าเงินดอลลาร์ ดังนั้น หากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อาจทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง และในทางตรงข้าม หากดอลลาร์อ่อนค่าลง ราคาทองคำอาจปรับตัวสูงขึ้น
- เศรษฐกิจจีนและอุปสงค์จากเอเชีย เศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่มีบทบาทสำคัญต่อราคาทองคำ หากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว อาจส่งผลให้ความต้องการทองคำลดลง ซึ่งจะกดดันราคาทองคำให้ลดลงตามไปด้วย
การวิเคราะห์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของตลาดยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือรายงานทางเศรษฐกิจสำคัญๆ ที่อาจประกาศออกมาในระยะใกล้
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
วิเคราะห์เทรนด์ราคาและโมเมนตัมจากกราฟ
- แนวโน้มราคา (Price Action) จากกราฟพบว่าราคามีการปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า แต่มีการรีบาวด์เล็กน้อยหลังจากที่แตะจุดต่ำสุด ซึ่งเป็นไปได้ว่าราคาอาจมีแนวโน้มที่จะทรงตัวหรือกลับตัวขึ้นในระยะสั้นหากมีแรงซื้อเข้ามาสนับสนุนในบริเวณนี้
- อินดิเคเตอร์ MACD เส้น MACD (สีฟ้า) อยู่ต่ำกว่าเส้นสัญญาณ (สีส้ม) ในช่วงก่อนหน้าแสดงถึงโมเมนตัมขาลง แต่ล่าสุดสัญญาณเริ่มมีการตัดกันและการเคลื่อนไหวของ MACD ที่ใกล้กับเส้นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเริ่มฟื้นตัวของโมเมนตัมขาขึ้น ซึ่งอาจบอกถึงการกลับตัวของราคาในวันถัดไป
- วอลุ่มการซื้อขาย (Volume) สังเกตได้ว่าช่วงที่มีการปรับตัวลงของราคา วอลุ่มการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น แสดงถึงแรงขายที่มีเข้ามาค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม หากมีการซื้อกลับในวันพรุ่งนี้อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มการกลับตัวในระยะสั้น
แนวโน้มวันพรุ่งนี้
หากพิจารณาจากอินดิเคเตอร์ MACD และสัญญาณการดีดตัวที่อาจเกิดขึ้น ราคามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในกรอบเดิม หรือมีโอกาสดีดตัวขึ้นในระยะสั้น โดยต้องจับตามองแนวต้านที่ 2,750 จุด ซึ่งหากราคาผ่านไปได้ อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีก แต่หากไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ อาจปรับตัวลงไปหาจุดรับที่ 2,725 จุดได้
