ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2024 ปัจจัยพื้นฐานที่น่าจับตามองประกอบด้วย
- การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์มีผลโดยตรงต่อราคาทองคำ เนื่องจากทองคำซื้อขายในรูปดอลลาร์ หากดอลลาร์อ่อนค่าลงจะทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในทางทฤษฎี เนื่องจากนักลงทุนต้องการทองคำเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนลง
- อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ตลาดกำลังจับตาดูแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ย หาก FED เลือกที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทองคำจะได้รับอานิสงส์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งจะทำให้มีแรงซื้อเพิ่มขึ้นในตลาดทองคำ
- สถานการณ์เศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก เช่น สถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าและการเมืองระหว่างประเทศ อาจกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ ในระยะนี้นักลงทุนยังมีความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศ ซึ่งมีผลทำให้ความต้องการทองคำสูงขึ้น
- ความต้องการจากตลาดเอเชีย ประเทศจีนและอินเดียซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาทองคำ หากความต้องการทองคำจากสองประเทศนี้ยังคงแข็งแกร่ง ราคาทองคำอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและการวิเคราะห์เพิ่มเติมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวทั้งขึ้นและลงได้ในช่วงสั้นๆ นี้
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
จากกราฟราคาทองคำในช่วง 30 นาที พบว่าราคาล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 2,735.80 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งอยู่ในช่วงขาลงหลังจากมีการปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้านี้
การวิเคราะห์จากอินดิเคเตอร์ MACD (Moving Average Convergence Divergence)
- MACD อยู่ในช่วงติดลบ โดยมีสัญญาณเส้น MACD (สีน้ำเงิน) ต่ำกว่าเส้น Signal (สีส้ม) ซึ่งบ่งบอกถึงแรงขายที่ยังมีอยู่และราคายังมีแนวโน้มอ่อนตัวต่อไปได้
- กราฟ Histogram ของ MACD ก็ยังคงเป็นแท่งลบ แสดงถึงแนวโน้มที่อาจจะยังมีแรงขายต่อเนื่องอยู่
แนวรับและแนวต้าน
- จากกราฟ แนะนําให้จับตาแนวรับที่บริเวณ 2,730 ดอลลาร์สหรัฐ หากราคาทองคำยังไม่สามารถรักษาระดับนี้ได้ อาจมีโอกาสลงต่อไปที่แนวรับถัดไป
- ส่วนแนวต้านอยู่ที่ประมาณ 2,750 – 2,755 ดอลลาร์สหรัฐ หากมีการปรับตัวขึ้นไปถึงแนวต้านนี้แล้วไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ ก็อาจจะกลับตัวลงอีกครั้ง
สรุปแนวโน้มสำหรับวันพรุ่งนี้
ราคาทองคำอาจยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาลง โดยมีแรงขายกดดันอยู่ หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับหลักได้ อาจเห็นการปรับตัวลงต่อ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังการกลับตัวขึ้น หากมีปริมาณซื้อที่เพิ่มขึ้นในระดับแนวรับ