ปัจจัยทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์
ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้น่าจะยังคงเผชิญความผันผวน เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำ
- สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯ
ดัชนีเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงทำให้นักลงทุนมองหาทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ การปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ส่งผลให้ทองคำอาจถูกกดดันในระยะสั้น แต่มีโอกาสฟื้นตัวในระยะยาว หากเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย - อุปสงค์จากประเทศผู้บริโภคทองคำรายใหญ่
จีนและอินเดียซึ่งเป็นตลาดทองคำสำคัญ ยังคงมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจีนที่ยังคงเผชิญปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การลดการบริโภคทองคำในประเทศเหล่านี้จะเป็นตัวถ่วงราคาทองคำในตลาดโลกในระยะสั้น - ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ยังคงสูง เป็นปัจจัยกดดันทองคำในช่วงนี้ เนื่องจากนักลงทุนอาจเปลี่ยนมาถือสินทรัพย์อื่นแทน อย่างไรก็ตาม หากมีความกังวลในตลาดการเงิน เช่น ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือความผันผวนในตลาดทุน ทองคำอาจได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ราคาทองคำในวันพรุ่งนี้อาจปรับตัวอยู่ในกรอบแนวรับที่ $2,645-$2,630 และแนวต้านที่ $2,705-$2,725 ขึ้นอยู่กับปัจจัยข้างต้น หากตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ราคาทองคำอาจยืนอยู่ในระดับแนวต้าน แต่หากดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ทองคำอาจเผชิญแรงกดดัน
แนวโน้มราคาทองคำจากกราฟเทคนิคเพิ่มเติม
1. แนวโน้มราคาทองคำ (Trend)
- กราฟแสดงถึงการปรับตัวลงล่าสุดหลังจากที่ราคาขึ้นไปแตะระดับแนวต้าน (Resistance) ที่สูงกว่า 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ แล้วไม่สามารถผ่านไปได้
- การปรับตัวลงของแท่งเทียนในช่วงหลังนี้มีลักษณะ “Lower Highs” และ “Lower Lows” ซึ่งแสดงให้เห็นแนวโน้มขาลงในระยะสั้น
2. MACD (อินดิเคเตอร์ทางโมเมนตัม)
- MACD Line (-3.093) ต่ำกว่า Signal Line (-1.670) ชัดเจน และ Histogram ยังคงอยู่ในพื้นที่ลบ ซึ่งบ่งชี้ว่าการขายยังมีแรงกดดันมากกว่า
- ทิศทางของ MACD ยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยไม่มีสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน ณ เวลานี้
3. ปริมาณการซื้อขาย (Volume)
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume) ในช่วงขาลงเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า แสดงถึงแรงขายที่มีนัยสำคัญ และอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าราคาอาจปรับลดต่อไป
4. ระดับแนวรับ (Support) และแนวต้าน (Resistance)
- แนวรับที่สำคัญ บริเวณ $2,660-$2,650 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นจุดที่ราคาปัจจุบันอยู่ใกล้ อาจมีโอกาสชะลอตัวหรือเด้งกลับ (Rebound) หากมีแรงซื้อเข้ามา
- แนวต้านที่สำคัญ ระดับ $2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ จะยังคงเป็นจุดกดดัน หากราคาเด้งกลับขึ้น
5. บทสรุปแนวโน้ม
- ในระยะสั้น ราคามีแนวโน้มอ่อนตัวต่อ หากแรงขายยังคงเด่นชัด
- หากแนวรับ $2,650 ดอลลาร์/ออนซ์ ถูกทะลุลงไป ราคามีโอกาสลงไปทดสอบระดับถัดไปที่ $2,620 ดอลลาร์/ออนซ์
- อย่างไรก็ตาม หากมีปัจจัยพื้นฐานเข้ามาหนุน เช่น ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า หรืออัตราดอกเบี้ยเฟดมีแนวโน้มชะลอ ราคาทองคำอาจเด้งกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง
หากต้องการความแม่นยำเพิ่มเติม ควรติดตามปัจจัยพื้นฐาน เช่น การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และตัวเลขเศรษฐกิจ เช่น อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ซึ่งมีผลต่อราคาทองคำโดยตรง